มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สอง หลังตลาดรับรู้ปัจจัยลบจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างปธน. ทรัมป์และเม็กซิโก/แคนาดา/จีนในช่วงต้นสัปดาห์ไปพอสมควรแล้ว โดยตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงสนับสนุนจาก Nvidia (+5%) หลัง SMCI (+8%) ประกาศว่าระบบ Data centre AI ซึ่งขับเคลื่อนโดยไมโครชิป Blackwell ขั้นสูงของ Nvidia พร้อมที่จะส่งมอบแล้ว รวมถึงหุ้น Amgen (+6.5%) ขานรับบริษัทรายงานกำไรและรายได้ 4Q24 ที่สูงกว่าตลาดคาด แม้ว่ารายงานผลประกอบการ 4Q24 ของหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่สำคัญอย่าง Alphabet (-7%) และ AMD (-6%) จะออกมาไม่สดใสก็ตาม
รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่ออกมาอ่อนแอทั้งตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS เดือนธ.ค. และ ดัชนี PMI ภาคการบริการเดือนม.ค. ที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้ตลาดคาดหวังว่า Fed จะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น (อ้างอิงจาก CME FedWatch ชี้ว่าตลาดให้น้ำหนักที่ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 18 มิ.ย.) อย่างไรก็ตาม Fed สาขาแอตแลนตา เปิดเผยแบบจำลองคาดการณ์ GDPNow เศรษฐกิจสหรัฐ 1Q25 ขยายตัว 2.9% (vs. 1Q24 ที่ +1.4%, 2Q24 ที่ +3.0%, 3Q24 ที่ +3.1%, 4Q24 ที่ +2.3%) ยังคงความแข็งแกร่งและทนทาน
ติดตามข้อมูลอัตราการว่างงานและตัวเลขภาคตลาดแรงงานสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (7 ก.พ.) เพื่อหาทิศทางแนวโน้มการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของ Fed เพิ่มเติม นอกจากนี้ ติดตามการประชุมของ BoE วันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp มาที่ระดับ 4.50%
รายงานสินค้าคงคลังน้ำมันดิบรายสัปดาห์จาก EIA ที่เพิ่มขึ้น 8.6 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า +2.3% ท่ามกลางการลงนามคำสั่งใช้มาตรการกดดันทางเศรษฐกิจขั้นสูงสุดของทรัมป์ ที่พยายามจะลดการส่งออกน้ำมันของอิหร่านให้เหลือศูนย์
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหว Sideway บริเวณ 1,280-1,315 จุด และ จับตาที่บริเวณ 1,280 จุด ว่าไม่ควรหลุด หากหลุดจะมีแรงซื้อกลับมามากน้อยเพียงใด หลัง ตลท.เปิดเฮียริ่งแก้ปัญหาหุ้นใหญ่ครอบงำดัชนี ดึงเกณฑ์ Capped Weight มาใช้กับ SET50, SET100, SET50FF รายหุ้นน้ำหนักไม่เกิน 10% ของดัชนี และ Rebalance เป็นรายไตรมาส ส่งผลให้มีแรงขายในหุ้น DELTA ที่มี Market Cap 13% กดดันดัชนี SET วานนี้
ปัจจัยในประเทศวันนี้ ติดตามรายงานข้อมูลเงินเฟ้อเดือนม.ค. ของไทย ที่ตลาดคาดว่าดัชนี CPI จะขยายตัว 1.3% yoy (vs. เดือนธ.ค. +1.23%) และ Core CPI ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 0.83% yoy (vs. เดือนธ.ค. +0.79%)
ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างโครงการเงินดิจิทัล 10,000 เฟส 3 รัฐบาลยังคงยืนยันว่าจะสามารถดำเนินการภายใน 2Q25 โดยภายในเดือนก.พ. จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลงรายละเอียด
• หุ้นแนะนำ
BCH : เราเชื่อว่าราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนความกังวลของนักลงทุนทั้งการปรับลดอัตราการคืนเงินค่ารักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็น 8,000 บาท/Adj. RW ใน 4Q24F และผู้ป่วยชาวคูเวตที่กลับมารักษาช้า แล้ว
(Take profit : 15.1 / Stop loss : 13.5)
BBL : BBL ทำกำไรสุทธิ 1.04 หมื่นล้านบาท ใน 4Q24 สอดคล้องกับประมาณการของเรา และมีอัตราส่วน NPL ลดลงจาก 3.94% ใน 3Q24 เป็น 3.45% ใน 4Q24 เนื่องจากมีการปรับชั้นของสินเชื่อธุรกิจจากสินเชื่อ Stage 3 เป็น Stage 2
(Take profit : 156.5 / Stop loss : 150.5)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon