ไทยคมรายงานผลประกอบการปี 2567

13

มิติหุ้น  –  บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (“ไทยคม” หรือ “บริษัท”) ผู้ให้บริการดาวเทียมไทย รายงานผลประกอบการประจำปี 2567ในปี 2567 แม้บริษัทจะเผชิญกับสภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ท้าทาย บริษัทสามารถมีกำไรจากการดำเนินงาน¹ จำนวน 109 ล้านบาท และหากพิจารณาเฉพาะธุรกิจด้านดาวเทียม บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมและส่วนแบ่งขาดทุนจากธุรกิจโทรคมนาคมจำนวน 175 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติ 66 ล้านบาท สะท้อนถึงความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่งของธุรกิจหลัก

บริษัทมีผลขาดทุนส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ในปี 2567 จำนวน 23 ล้านบาท เนื่องจากปัจจัยชั่วคราวจากอัตราแลกเปลี่ยน จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2567 โดยสถานการณ์การแข็งค่าของค่าเงินบาทดังกล่าวส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการส่งออก รวมถึงบริษัท ซึ่งมีสัดส่วนรายได้หลักมาจากต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทตระหนักถึงความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน  และได้ดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบ  เช่น การบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและการกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ นอกจากนี้ ในปี 2566 บริษัทรับรู้รายได้อื่นจำนวน 310 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ค่าชดเชยจากข้อพิพาทกับบริษัทคู่สัญญารายหนึ่ง

บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (บริษัท หรือ ไทยคม) มีรายได้จากการขายและการให้บริการในปี 2567 จำนวน 2,413ล้านบาท ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับรายได้จำนวน 2,627 ล้านบาทในปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการลดการใช้งานของลูกค้าในส่วนที่ดาวเทียมดวงใหม่ไม่ครอบคลุม โดยเฉพาะในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทยังคงมุ่งมั่นขยายการให้บริการในภูมิภาคอื่นๆ ที่มีศักยภาพ รวมถึงรายได้ที่ลดลงจากรอยต่อของสัญญาโครงการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Service Obligation: USO) ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. สืบเนื่องมาจาก USO ระยะที่ 2 เปลี่ยนผ่านเข้าสู่ USO ระยะที่ 3 ที่มีกรอบงบประมาณมากถึง 5.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ โครงการ USO ระยะที่ 2 จะกลับมาเดินหน้าต่อในช่วงไตรมาสที่ 1/2568 ขณะที่การประมูลสำหรับ USO ระยะที่ 3 มีกำหนดจะเกิดขึ้นภายในไตรมาสเดียวกัน ซึ่งจะมีการให้บริการด้านดาวเทียมรวมอยู่ในโครงการนี้เช่นเดียวกัน โดยบริษัทได้เตรียมความพร้อมและดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อรองรับปริมาณความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

ในปี 2567 บริษัทประสบความสำเร็จในการได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการดาวเทียมในประเทศอินเดียจาก IN-SPACe ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงอวกาศของรัฐบาลอินเดีย นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายโอกาสทางธุรกิจในตลาดที่มีศักยภาพสูง เพื่อตอบสนองความต้องการด้านบรอดแบนด์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศอินเดียซึ่งมีประชากร 1.4 พันล้านคน บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ และส่งมอบผลลัพธ์ที่เป็นไปตามที่แจ้งไว้ นอกจากนี้ บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรดาวเทียมในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการลงนามในสัญญาร่วมมือกับ บริษัท ฮิวจ์ คอมมิวนิเคชั่น อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดาวเทียมชั้นนำในประเทศอินเดีย ด้วยส่วนแบ่งการตลาดราว 70% ภายใต้ข้อตกลงนี้ บริษัทจะเริ่มให้บริการช่องสัญญาณบนดาวเทียมไทยคม 8 ในไตรมาส 1/2568 และขยายไปสู่ดาวเทียมดวงใหม่ของบริษัทที่จะถูกส่งขึ้นสู่วงโคจรในอนาคต ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทได้ดำเนินโครงการร่วมกับภาครัฐ โดยร่วมมือกับกองทัพอากาศและสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (“GISTDA”) เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านเทคโนโลยีดาวเทียมและโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของประเทศ

สำหรับธุรกิจการให้บริการโทรศัพท์ในต่างประเทศ ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในการร่วมค้าปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากบริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่น มหาชน (“LTC”) มีรายได้และกำไรสุทธิที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากนโยบายการปรับโครงสร้างราคาค่าบริการโทรคมนาคมของกระทรวงคมนาคมและการสื่อสาร ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากสกุลเงินกีบ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2567 จึงทำให้บริษัทยังคงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนในการร่วมค้า

บริษัทตอกย้ำความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่ต่อยอดความเชี่ยวชาญในด้านธุรกิจดาวเทียม มาสู่ธุรกิจเทคโนโลยีอวกาศ ด้วยการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมสำรวจโลก อาทิ ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม มาวิเคราะห์ร่วมกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) และการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning: ML) จนเกิดเป็นแพลตฟอร์ม ‘CarbonWatch’ ซึ่งเป็นเครื่องมือในการประเมินการกักเก็บคาร์บอนในป่าไม้ ที่ได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รายแรกในประเทศไทยและอาเซียน

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon