CGSI : Trend Spotter

15

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลงในวันศุกร์ (7 ก.พ.) หลังปธน. ทรัมป์มีแผนที่จะประกาศ Reciprocal Tariffs สัปดาห์นี้ ให้เท่ากับอัตราภาษีที่สหรัฐถูกเรียกเก็บ สร้างความกังวลให้นักลงทุนว่าอาจนำไปสู่สงครามการค้าที่กว้างขึ้นและภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในสหรัฐ สนับสนุนแนวโน้มที่ Fed จะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. กอปรกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี พุ่งขึ้นเหนือ 4.5% ระหว่างวัน

โดยอัตราการว่างงานเดือนม.ค. ลดเหลือ 4.0% ต่ำกว่าตลาดคาดว่าจะคงเดิมจากเดือนธ.ค. 4.1% เช่นเดียวกับตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนม.ค. ลดลง 1.64 แสนตำแหน่ง สู่ระดับ 1.43 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าตลาดคาด 1.69 แสนตำแหน่ง ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือนก.พ. ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เหลือ 67.8 ต่ำกว่าตลาดคาด 71.3 (vs. เดือนม.ค. 71.1) ท่ามกลางคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อในระยะเวลา 1 ปี จะสูงถึง 4.3%

ตลาดหุ้นสหรัฐยังเผชิญแรงขายหุ้น Amazon (-4.1%) จากธุรกิจ Cloud computing ที่อ่อนแอ และคาดการณ์ผลประกอบการ 1Q25 ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด

ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า สร้างความผันผวนให้ตลาดหุ้นสหรัฐตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา (3-7 ก.พ.) และเป็น Sentiment ลบให้ดัชนี FTSE100 และ STOXX600 ปิดลบในวันศุกร์ (7 ก.พ.) อีกทั้ง ทำให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างราคาทองคำ +0.4%

นอกจากนี้ การที่สหรัฐเปิดเผยว่าเตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านรอบใหม่ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.6% ท่ามกลาง Upside ที่จำกัดจากรายงานข่าวการเรียกเก็บภาษีเพิ่มขึ้นของทรัมป์

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาคอื่น รายงานตัวเลขดัชนี CPI ของจีนเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ที่ระดับ +0.5% yoy สูงกว่าตลาดคาดที่ +0.4% (vs. เดือนธ.ค. ที่ +0.1%) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนมองว่าจีนยังคงเผชิญกับความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด สอดคล้องกับดัชนี PPI ที่เปิดเผยออกมาว่าหดตัวเท่ากับเดือนธ.ค. ที่ 2.3% yoy สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัว 2.1%

สัปดาห์นี้ จับตาถ้อยแถลงนายพาวเวล ประธาน Fed ต่อสภาคองเกรส (11-12 ก.พ.) เพื่อหาสัญญาณทิศทางนโยบายการเงินของ Fed หลัง Dot Plot ในการประชุม Fed เดือนธ.ค. 2024 ชี้ว่าเจ้าหน้าที่ Fed ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2025 / มาตรการภาษีศุลกากรสหรัฐ หลังล่าสุดมีรายงานว่าทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% จากทุกประเทศวันนี้ ส่งผลให้ดัชนี DJIA Futures ร่วงลง 62 จุดเช้านี้ (10 ก.พ.)

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ติดตาม 1) ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนม.ค. สหรัฐ (12 ก.พ.) 2) GDP4Q24 อังกฤษ และ ดัชนี PPI เดือนม.ค. สหรัฐ (13 ก.พ.) 3) ดัชนียอดขายปลีกสหรัฐ (14 กพ.)

• SET Index : เราคาดว่า SET Index สัปดาห์นี้ จะแกว่งตัวบริเวณ 1,265-1,300 จุด ขณะที่วันนี้เรามองว่า SET อาจเผชิญแรงกดดันจากความกังวลต่อการประกาศเรียกเก็บภาษีศุลกากรของทรัมป์ล่าสุด

ดังนั้น เรายังคงคำแนะนำการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Domestic play โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล หรือจาก FDI ที่เพิ่มขึ้นจากสถานการณ์การค้าโลกเริ่มตึงเครียด

• หุ้นแนะนำ
TIDLOR : บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 1.04 พันลบ. (+15.95 yoy, +5.4% qoq) ซึ่งโดยรวมบริษัทมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งจากการเติบโตของสินเชื่อและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย รวมถึงการจัดการกับต้นทุนเครดิตที่ลดลง

(Take profit : 18.0 / Stop loss : 16.7)

ADVANC : บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 9.26 พันลบ. (+32% yoy, +5.4% qoq) โดยมีปัจจัยบวกจาก ARPU ที่แข็งแกร่งในกลุ่ม Pre-paid, การขายโทรศัพท์มือถือที่ดี, และอัตรากำไรจากการขายมือถือที่ดีขึ้น

(Take profit : 287 / Stop loss : 276)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon