AIS ผนึก ภาครัฐ ยกระดับความเข้มข้น สกัดแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามพรมแดน รื้อถอนสัญญาณแนวชายแดนสระแก้ว พร้อมเดินหน้าแก้ไขเสาส่งสัญญาณ ตามมาตรการภาครัฐเพิ่มอีก 9 จังหวัด

43

มิติหุ้น – AIS ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เดินหน้าสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดำเนินการรื้อถอนสัญญาณบริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้วดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมติดตามการปฏิบัติงานและมอบนโยบาย เพื่อสนับสนุนแผนการแก้ไขเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณแนวชายแดนที่มีความเสี่ยง ภายใต้ยุทธการอรัญ 68 ระเบิดสะพานโจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทลายสัญญาณอินเตอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์ พร้อมเดินหน้าปฏิบัติการแก้ไขเสาส่งสัญญาณเพิ่มเติมในพื้นที่ 9 จังหวัด ตามมาตรการของ กสทช.

นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการระบบสื่อสาร
เอไอเอสพร้อมสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง ตำรวจ และกสทช. อย่างเข้มงวดเสมอมา ในประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขและควบคุมเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือบริเวณชายแดนที่มีความเสี่ยงนั้น ที่ผ่านมา เอไอเอสได้ดำเนินการลงพื้นที่ตรวจสอบกวดขัน และปฏิบัติตามมาตรการของ กสทช. อย่างเคร่งครัดในพื้นที่เสี่ยง บริเวณชายแดน 7 จังหวัด 11อำเภอ เสร็จสิ้นเรียบร้อยตั้งแต่กลางปี 2567 รวมถึงยืนยันการเชื่อมต่อจุดสัญญาณกับผู้ให้บริการในประเทศเพื่อนบ้านต้องได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเช่นกัน เพื่อป้องกันการใช้สัญญาณก่ออาชญากรรมข้ามแดนจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ตามที่ กสทช. ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อยกระดับเพิ่มความเข้มงวดไปอีกขั้น ขอให้ดำเนินการแก้ไขเสาส่งสัญญาณบริเวณแนวชายแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อได้รับคำสั่งเพิ่มเติมดังกล่าว AIS ได้ดำเนินการทันที ได้แก่ พื้นที่ตลาดเบญจวรรณ (ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 1 ภายในระยะ 50 เมตรจากเขตแดน) AIS ดำเนินการตามมาตรการเรียบร้อยแล้ว โดยรื้อถอนตัวกระจายสัญญาณทั้งหมดออกแล้วและพื้นที่บ้านโคกสะแบง (ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่ 2 อยู่ห่างจากเขตแดน 300 เมตร) AIS ดำเนินการปิดสัญญาณทั้งหมดแล้ว และดำเนินการรื้อถอนตัวสายอากาศ(Antenna) ทั้งหมดออกแล้ว โดย AIS ได้เตรียมดูแลเครือข่ายการใช้งานให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยได้เตรียมรถสถานีฐานเคลื่อนที่และติด Small Cell เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารได้ 

ทั้งนี้ กสทช. ได้กำหนดให้ดำเนินการแก้ไขเสาส่งสัญญาณบริเวณแนวชายแดนเพิ่มเติมใน 9 จังหวัด ได้แก่ ด่านเจดีย์สามองค์/พุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี แม่สอด/พบพระ/แม่ระมาด จ.ตาก อรัญประเทศ/บ้านโคกสะแบง จ.สระแก้ว แม่สาย/เชียงของ/เชียงแสน จ.เชียงราย กาบเชิง จ.สุรินทร์ บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร เมืองหนองคาย           จ.หนองคาย โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี และเมืองระนอง จ.ระนอง โดยมีกำหนดตามแผนให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ประกอบด้วย การรื้อถอนเสาสัญญาณที่อยู่ในระยะไม่เกิน 50 เมตรจากชายแดน กรณีเสาที่อยู่ในระยะ 1กม. จากชายแดน ให้ลดกำลังส่ง และปรับเสาให้สูงไม่เกิน 15 เมตร และเสาที่อยู่ในระยะไม่เกิน 3.5 กม. ให้ตั้งเสาอากาศความสูงไม่เกิน 30 เมตร

นอกจากนี้ เอไอเอสยังได้ร่วมมือกับ กสทช. และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบังคับการตำสวจสอบสวนกลาง ทำการปิด IP Address ที่คนร้ายใช้ในการกระทำผิดอีกด้วย

“การควบคุมโครงข่ายสื่อสารในพื้นที่เสี่ยงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันการใช้งานในลักษณะที่ผิดกฎหมาย สอดคล้องกับมาตรการของรัฐบาลในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ ยาเสพติด และขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ เอไอเอส ขอยืนยันถึงความพร้อมในการสนับสนุนทุกภารกิจของภาครัฐ เพื่อยกระดับการป้องกันและปราบปรามกลุ่มขบวนการผิดกฎหมาย พร้อมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้แก่ประเทศและประชาชนทุกคน

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon