Pi Daily กระทรวงการคลังเตรียมทบทวนกองทุน LTF หากชะลอแรงขายได้จะเป็นบวก เงินเฟ้อสหรัฐฯเร่งขึ้นแต่ตลาดคาดหมายว่าจะไม่แรงเพราะราคาน้ำมันดิบปรับลง หลังมีรายงานทรัมป์จะเจรจาให้ยูเครน รัสเซียจบลง หุ้นไทยยังไม่แพงแต่ก็เลือกตัวที่น่าสนใจ

19

มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดลบ 225 จุด (-0.5%) หลังจากสหรัฐฯรายงานเงินเฟ้อมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.36% หลังมีรายงานว่าทรัมป์จะเจรจากับปูตินเพื่อให้สงครามระหว่างยูเครน กับ รัสเซีย จบลงโดยดี

วันอังคารที่ผ่านมารัฐมนตรีกระทรวงการคลังได้ออกมาเผยว่ากระทรวงการคลังกำลังมีแนวคิดว่าจะปรับปรุง LTF โดยนำ LTF ของเดิมที่มีมูลค่าราว 1.8 แสนล้าน มาจัดตั้งเป็นอีกกองทุนที่อยู่ใน ThaiESG เนื่องด้วยตลาดหุ้นไทยที่ปรับลงมานักลงทุนจะได้ฉุกคิดว่าจะขายต่อหรือไม่ เพราะว่าถ้าคงเงินไว้ในกองทุนก็จะได้สิทธิ์ในการลดหย่อนภาษี ปัจจัยข้างต้นถือเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นไทยเพราะหากไม่ดำเนินการใดๆก็หมายความว่าตลาดหุ้นไทยจะมีแรงขายรออยู่อีก 1.8 แสนล้านบาท โดยวันอังคาร SET INDEX ปรับขึ้นมา 13.5 จุด (+1.06%) สะท้อนว่าก่อนหน้านักลงทุนบางส่วนกังวลกับประเด็น LTF ในขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจพบว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าท่องเที่ยวไทยในช่วง 3 – 9 ก.พ. พบว่าอยู่ที่ 8.37 แสนราย (-11%WoW) โดยนักท่องเที่ยวจีนตกลงมาอยู่อันดับสองที่ 1.14 แสนราย (-35%WoW) แต่หากพิจารณา YTD จะพบว่าขยายตัวได้ 17%YoY และสะสมทั้งหมดที่ 4.8 ล้านราย ในส่วนของสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาพบว่ารายงานเงินเฟ้อขยายตัว 3%YoY , 0.5%MoM มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.9%YoY 0.3%MoM สอดคล้องกับเงินเฟ้อพื้นฐานที่ขยายตัว 3.3%YoY มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 3.1%YoY สินค้าหลักๆที่เคยหดตัวลงอย่างน้ำมันดิบพบว่าในเดือน ม.ค. กลับมาขยายตัว 1%YoY จากเดือนก่อนๆหน้าที่หดตัวลง

ขณะที่รายสินค้าอื่นๆก็เห็นการขยายตัวเช่นกัน อาทิ ที่อยู่อาศัย ค่าขนส่ง ค่ารักษาพยาบาล ส่งผลให้เมื่อคืนที่ผ่านมาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯกลับมาปรับตัวขึ้นทั้งอายุ 2 , 10 ปี และความเห็นล่าสุดจาก CME FED Watch ให้น้ำหนักลดดอกเบี้ยทั้งปี 25 เพียง 1 ครั้ง แต่อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นดูมิได้กังวลมากนัก เพราะในช่วงแรกตลาดหุ้น Dow Jones ลงไปติดลบมากถึง 1% ก่อนจะฟื้นตัวมาติดลบเพียง 0.5% ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะว่าทรัมป์ได้ออกมาให้ข้อมูลว่าได้หารือกับทางผู้นำรัสเซียเพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับยูเครนเช่นกัน เป็นผลให้น้ำมันดิบปรับลงและอาจทำให้นักลงทุนมิได้กังวลกับภาวะเงินเฟ้อมากนัก ระยะสั้นเป็นลบกับกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) แต่ด้วยความขัดแย้งที่น้อยลงก็จะเป็นบวกกับภาพรวมเศรษฐกิจโลก วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1275 – 1295 ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน Valuation หุ้นไทยยังไม่แพงประกอบกับมีแรงหนุนจากกองทุน LTF จึงแนะทยอยสะสมได้เช่นเดิมแต่ให้เลือกหุ้นที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม อาทิ ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) ส่งออก (ITC TU) การเงิน (MTC SAWAD)

CPF (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 28.75 บาท)

ปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q24 ต่อเนื่องถึง 1Q25 จะยังเห็นการเติบโตได้ต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับผลดีจากราคาเนื้อสัตว์ในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูงได้ โดยเราคาดกำไรสุทธิงวด 4Q24 ที่ระดับ 4,000 ล้านบาท เพิ่มมากจากปีก่อนเพราะราคาเนื้อสัตว์ดีขึ้น แต่ลดลงกว่า 44%QoQ ซึ่งเป็นผลตามฤดูกาล Low Seasons ของธุรกิจสัตว์น้ำ

AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท)

ปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการงวด 4Q24 ที่คาดว่าจะออกมาสูงถึง 1,251 ล้านบาท ได้รับผลดีจากยอดโอนที่ดินที่มากถึง 1,147 ไร่ หลังจากที่สามารถทำยอดขายทั้งปีได้กว่า 3,000 ไร่ และจากยอดขายที่ดีดังกล่าวทำให้มี Backlog สูงถึง 21,000 ล้านบาทซึ่ง จะเป็นปัจจัยที่หนุนผลประกอบการในปี 25 ทำให้เรามีการปรับกำไรขึ้นจากเดิม 27% มาอยู่ที่ระดับ 3,187 ล้านบาท

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon