“ แม็คกรุ๊ป ” โตสนั่น !!! ไตรมาส 2 ปีบัญชี 2568 กำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% จากไตรมาสแรก

197

มิติหุ้น  –  นายเจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ  MC องค์กรธุรกิจค้าปลีก ประเภทสินค้าแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ “แม็คยีนส์” เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส   2 ปีบัญชี 2568 ( 1ตุลาคม- 31ธันวาคม 2567 ) ว่า กลุ่มบริษัทมีกำไรสุทธิ 305 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% จากไตรมาสแรกปีบัญชี 2568  ที่มีกำไรสุทธิ 133 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 7.6% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 283 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่   22.5 %  เมื่อเทียบงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 21.5 %

ขณะที่งวด 6 เดือนแรก ปีบัญชี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น   6.1 % เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  412 ล้านบาท โดยอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น  19.6 % เมื่อเทียบงวดเดียวกันปี 18.6 %   ซึ่งอัตรากำไรสุทธิที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นผลจากยอดขายที่เติบโตและบริษัทมีการบริหารต้นทุนการขายและควบคุมค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ   

“MC ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) ได้ดีต่อเนื่อง โดยงวดไตรมาส 2 มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 64.9% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 64% ขณะที่งวดครึ่งปีแรกปีบัญชี 2568 อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 65.1% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 64.8% “  นายเจมส์ ริชาร์ด กล่าว

ทั้งนี้งวดไตรมาส 2 ของปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า   1,336 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น  2.6 % เป็นผลจากการเติบโตต่อเนื่องของรายได้จากช่องทางขายออนไลน์ ที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาสนี้ บริษัท มีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ ทั้งสิ้น 212 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 83 ล้านบาทหรือ 63.9%    

ขณะที่งวด 6 เดือนแรกปีบัญชี 2568 บริษัทมีรายได้จากการขาย   2,178 ล้านบาท ลดลง 0.3 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  เป็นผลจากกำลังซื้อในช่องทางออฟไลน์ที่ ลดลง แต่มีรายได้จากช่องทางออนไลน์ เติบโตดีมาก โดยงวดครึ่งปี มีรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางร้านค้าออนไลน์ 337ล้านบาทเพิ่มขึ้น 108 ล้านบาทหรือ 47.3%

“ช่องทางขายผ่านร้านค้าออนไลน์(E-Commerce)  ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น หลังแบรนด์แม็คยีนส์ติดอันดับหนึ่งแบรนด์ที่มียอดขายมากที่สุดใน TIKTOK โดย งวดครึ่งแรกของปีบัญชี 2568 สัดส่วนเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 16% จาก 10%เมื่อเทียบงวดเดียวกันของปีก่อน   ส่วนช่องทางขายอื่นๆ  สัดส่วนลดลง โดย ช่องทางออฟไลน์อันได้แก่ ช่องทางร้านค้าปลีกของตนเอง(Free-standing Shop) มีสัดส่วน 65 %   ลดลงจาก68% มีรายได้ 1,426 ล้านบาท ,ห้างสรรพสินค้า (Department Store) 17 % จาก19% มีรายได้ 379ล้านบาท , และช่องทางอื่น ๆ คิดเป็น 1 % จาก3% “ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แม็คกรุ๊ปกล่าว

นายเจมส์ริชาร์ด กล่าวว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามกลยุทธ์หลัก ที่มุ่งเน้นคุมเข้มต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ที่ทำมาต่อเนื่องส่งผลให้ กำไรสุทธิทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องและ หนุนให้ผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น (ROE) ขึ้นไปอยู่ที่ 19.2 % ณ สิ้นธันวาคม 2567

อย่างไรก็ตาม   แม็คกรุ๊ป  ยังคงสถานะการเป็นบริษัทที่ไม่มีหนี้เงินกับสถาบันการเงิน ขณะที่เงินสดในมือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง   ณ สิ้น ธันวาคม 2567 บริษัทมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด และเงินลงทุนชั่วคราว   1,896  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 162  ล้านบาท จากสิ้นเดือนมิถุนายน  2567  ที่มีเงินสด1,734 ล้านบาท

นายเจมส์ริชาร์ด กล่าวว่า ผลดำเนินงานและฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้คณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับผลดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปีบัญชี2568 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นอัตราการจ่าย เกือบ100 % ของกำไรสุทธิ และสูงกว่านโยบายที่จะจ่ายไม่น้อยกว่า 40% อีกทั้ง งวดครึ่งแรกปีนี้บริษัทจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่จ่ายหุ้นละ 0.50 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมายวันที่27 ก.พ 2568 และจะจ่ายเงินในวันที่ 13 มี.ค 2568

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon