“ทรัมป์” มาพาป่วน ทองคำโลกเดือด ทะลุ 3,000 เหรียญ

641

มิติหุ้น – การกลับมาดำรงตำแหน่งของ “โดนัลด์ ทรัมป์ที่ปูพรมเริ่มส่งสัญญาณ “สงครามการค้าระดับโลก” ชัดเจนมากขึ้นในการเดินเกมรุก ที่ขับเคลื่อนด้วยมาตรการทางภาษี นำร่องใน เคนนาดา แม็กซิโก และ จีน รวมทั้งความไม่แน่นอนในการดำเนินนโยบาน ที่คาดเดาได้ยาก ยิ่งเป็นปัญหาต่อตลาดทุน ที่ต้องการความชัดเจนแน่นนอน ซึ่งเมื่อ “ทรัมป์” เดาทางยาก นักลงทุนก็แห่วิ่งเข้าถือ “ทองคำ” เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และยังความน่าสนใจเพิ่มขึ้น หลังมีความตึงเครียดทางการค้า รวมถึงความกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการคลังของสหรัฐฯ กดดันราคาทองพุ่ง

ทองทะลุ 3 พันดอลลาร์

จะเห็นได้ในช่วงที่ผ่านมาหลังการก้าวขึ้นในตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ “ทรัมป์” ทำเอาราคาทองทยานพุ่งทุบสถิติ All time high จนราคาขึ้นไปแตะระดับ 2,940 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังมีแนวโน้มที่การเคลื่อนไหวของราคาทองคำนั้นเข้าใกล้ราคาเป้าหมายที่ให้ไว้เร็วกว่าที่คาด ทั้งนี้จากบทวิเคราะห์ของ “วายแอลจี” ระบุว่า ยังคงเป้าหมายเดิม 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ไว้เป็น Base Case แต่หากโมเมนตัมทองคำยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง มองว่าจะมีโอกาสขึ้นทดสอบเป้าหมายถัดไปที่ 3,100 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ หากผ่านบาทละ 48,000 บาท จะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบที่ระดับบาทละ 50,000 บาท หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในระยะข้างหน้า

4 ปัจจัยดันราคาทอง

  1. ความกังวลในความไม่แน่นอนด้านนโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่ล่าสุดได้ลงนามประกาศปรับขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก และอลูมิเนียมทั้งหมดเข้าสู่สหรัฐ สู่ระดับ 25% โดยไม่มีข้อยกเว้น จากเดิมที่ระดับ 10% โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 4 มี.ค. 2568 รวมทั้งการส่งสัญญาณวางแผนประกาศใช้ภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) เพิ่มเติม
  2. ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังเพิ่มขึ้น เมื่อกลุ่มฮามาสระงับการปล่อยตัวตัวประกันชาวอิสราเอล โดยอ้างว่าอิสราเอลฝ่าฝืนการหยุดยิงในฉนวนกาซา ขณะที่ “ทรัมป์” กล่าวว่าฮามาสต้องปล่อยตัวประกันทั้งหมดที่ถูกจับตัว ภายในเที่ยงวันเสาร์นี้ (15 ก.พ. 2568) มิฉะนั้นเขาจะเสนอให้ยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง
  3. ความคาดหวังของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายลง กำลังสนับสนุนทองคำที่ไม่ให้ผลตอบแทนในรูปของอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ได้ตามแผนถึงสองครั้ง
  4. การซื้อทองคำของธนาคารกลาง ยังเพิ่มดีมานด์ทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 เป็นปีที่ 3 ติดต่อกันที่มีระดับการเข้าซื้อสูงเกิน 1,000 ตัน โดยในเดือน ม.ค. 2568 ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้เพิ่มปริมาณทองคำสำรองเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตามแม้ราคาทองจะยังดูเป็นทิศทางขาขึ้น แต่นักลงทุนอย่างเราๆ ก็ต้องตั้งระยะป้องกันการเทขายทำกำไรออกมาในระยะสั้น เพราะราคาดีดตัวขึ้นมาพอสมควรอาจย่อลงได้บ้าง แม้สินทรัพย์ทางเลือกอย่าง “ทองคำ” จะยังคงมุมมองเชิงบวก

แต่ทั้งนี้ก็ควรเน้นกลยุทธ์ในการปรับ “พอร์ตการลงทุน” ที่ผสมผสาน ทั้งสินทรัพย์ในตลาด และนอกตลาด เพื่อการบริหารสภาพคล่องอย่างมีประสิทธิภาพ และรองรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon