CGSI : Trend Spotter

25

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก โดยดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮต่อเนื่อง แม้รายงานของ FOMC ชี้ว่า Fed จะตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง จากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อสหรัฐที่ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของ Fed ที่ 2% รวมถึงผลกระทบจากนโยบายของปธน. ทรัมป์ โดยเฉพาะมาตรการทางการค้าที่ล่าสุดมีการประกาศเตรียมเก็บภาษีศุลกากรรถยนต์ เซมิคอนดักเตอร์ และยา 25% ซึ่งอาจจะเริ่มใช้ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ ฉุดให้ดัชนี DJIA ร่วงลงในช่วงแรกของตลาดเปิด ดอลลาร์แข็งค่ากดดันให้ราคาทองคำปิดลบ -0.4% รวมถึงเป็น Sentiment ลบ ต่อตลาดหุ้นภูมิภาค (ดัชนี STOXX600 -5.1 จุด, FTSE100 -54.2 จุด)

ตลาดหุ้นสหรัฐยังมีแรงสนับสนุนจากหุ้นกลุ่มเทคฯ ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดย Microsoft ขานรับบริษัทเปิดตัวชิปควอนตัมคอมพิวเตอร์ตัวแรก, Tesla และหุ้น Analog Devices ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังบริษัทรายงานผลประกอบการ 4Q24 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด

ติดตามการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ ที่ Fed จะนำไปพิจารณาเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยวันนี้ ติดตามจำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และ ดัชนีภาคการผลิตเดือนก.พ. จาก Fed รัฐฟิลาเดลเฟีย

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก +0.6% ขานรับแนวโน้มอุปทานน้ำมันลดลงหลัง 1) สถานีปั๊มท่อส่งน้ำมันทางตอนใต้รัสเซียถูกโจมตี 2) สภาพอากาศหนาวในสหรัฐ 3) ตลาดคาดว่ากลุ่ม OPEC+ อาจเลื่อนแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย. และ 4) EU มีมติเห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียชุดที่ 16 ซึ่งรวมถึงการขึ้นบัญชีรายชื่อ Shadow fleet กองเรือบรรทุกน้ำมันและก๊าซที่ช่วยให้รัสเซียได้กำไรจากการขายเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ผิดกฎหมาย

• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหว Sideway บริเวณ 1,250-1,275 จุด โดยเรามองว่าตลาดยังมี Sentiment บวกจากการมาตรการกระตุ้นตลาดหุ้นไทยระยะสั้นผ่านการจัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่ 2 ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 1Q25 เพื่อชะลอการเทขาย LTF ที่ ณ 14 ก.พ. 2025 มีมูลค่า NAV 178,340 ล้านบาท และ ThaiESG มีมูลค่า NAV 32,196 ล้านบาท โดยจากการคำณวณของเรา SET Index ปรับตัวลดลง 10.2% ขณะที่ เม็ดเงินไหลออกจากกอง LTF ราว 2.6 หมื่นล้านบาท YTD

มากไปกว่านั้น เมื่อวานนี้ (19 ก.พ.) ตลท. มีมติเห็นชอบปรับกฎเกณฑ์ชอร์ตและจำกัด HFT ให้เป็นหลักทรัพย์เฉพาะในกลุ่ม SET100 เท่านั้น พร้อมเสนอยกเลิกมาตรการ Uptick ทุกหลักทรัพย์ ใช้เฉพาะหุ้นที่ราคาลดลงถึงระดับที่กำหนด และ ยกเลิก Minimum Resting Time

• หุ้นแนะนำ
ERW :
เราคาดว่า ERW จะมีกำไรจากการดาเนินงานปกติแข็งแกร่งที่ 358 ล้านบาท (+54% yoy, +188% qoq) ใน 4Q24 ซึ่งน่าจะช่วยให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้ง เราคาดว่า ERW จะได้ประโยชน์จากแนวโน้มเชิงบวกของ ADR ในปี FY25

(Take profit : 3.44 / Stop loss : 3.22)

SPRC :
รายงานกำไรสุทธิใน 4Q24 อยู่ที่ 162 ล้านบาท พลิกกลับมาจากการขาดทุนสุทธิ 2.2 พันล้านบาท ใน 3Q24 เนื่องจาก GRM ของตลาดแข็งแกร่งขึ้นและขาดทุนจากสต๊อกที่ลดลง

นอกจากนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดสุดท้าย 0.15 บาทต่อหุ้น โดยอัตราการจ่ายเงินปันผลทั้งปีอยู่ในระดับสูงที่ 78% (vs. ประมาณการของเราที่ 50%)

(Take profit : 5.70 / Stop loss : 5.05)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon