มิติหุ้น – ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” เปิดเผยว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อย รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567 มีรายได้รวม 6,619.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.44% และมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 686.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.26% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการเติบโตของยอดขายทั้งต่างประเทศและในประเทศที่เพิ่มขึ้น ตามความต้องการของตลาด ซึ่งมีรายได้เติบโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ โดยเฉพาะจากการขยายตัวของตลาดน้ำมะพร้าวในประเทศจีนที่มีอุปสงค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของกลุ่มตลาดเครื่องดื่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัว ประกอบกับ บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ น้ำมะพร้าว กะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้รายได้จากการขายและบริการขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ต้นทุนขายและบริการในปี 2567 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.27% โดยเป็นผลจากยอดขายผลิตภัณฑ์กะทิที่ขยายตัวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องจัดหาวัตถุดิบเพิ่มเติมในราคาที่สูงขึ้นจากผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) ส่งผลกระทบต่อราคาวัตถุดิบและต้นทุนการผลิต แม้บริษัทฯ จะมีการสำรองวัตถุดิบล่วงหน้าประมาณ 6 เดือน แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้น
ดร.วรวัฒน์ กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทฯ ได้พิจารณาเข้าลงทุนจัดตั้งโรงงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ จะช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบมะพร้าวที่มีต้นทุนต่ำ ช่วยเพิ่มความสามารถในการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบในระยะยาว และควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการบริหารจัดการต้นทุนผ่านการปรับปรุงกระบวนการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องจักร เพื่อเสริมสร้าง Economy of Scale และดำเนินโครงการลดต้นทุนด้านพลังงาน อาทิ การติดตั้ง Solar Rooftop ซึ่งช่วยลดต้นทุนการผลิตในระยะยาวและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ
“บริษัทฯ มีกำไรสุทธิปี 2567เพิ่มขึ้นตามยอดขายต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด แต่ในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 กำไรสุทธิลดลง โดยเป็นผลชั่วคราวมาจากการขายผลิตภัณฑ์กะทิที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทฯ ต้องมีการซื้อวัตถุดิบสำหรับผลิตกะทิเพิ่มเติมโดยมีราคาเฉลี่ยสูงขึ้น จากปัจจัยต้นทุนขายและบริการ ส่งผลให้ต้นทุนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับในไตรมาสที่ 4 จะเป็นช่วงฤดูหนาว(Low Season) ของอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม COCOCO ให้ความสำคัญ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมแผนบริหารจัดการไว้ในระยะยาว” ดร.วรวัฒน์ กล่าว
สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออก 87.69% ของรายได้จากการขายและบริการ โดยมียอดขายในภูมิภาคอเมริกาเพิ่มขึ้น 48.55% ภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น 47.58% ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 29.14% ภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 21.63% และภูมิภาคแอฟริกาเพิ่มขึ้น 17.10% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเห็นโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้นของปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวที่เป็นสินค้ายอดนิยมของกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่
COCOCO เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก พร้อมพัฒนากลยุทธ์บริหารต้นทุน หวังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติให้นำเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผล สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.30 บาท สำหรับหุ้นสามัญจำนวน 1,470,000,000 หุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายจำนวน 441,000,000 บาท ซึ่งคิดเป็นอัตราจ่ายปันผล 67.97% ของกำไรสุทธิประจำปี 2567
การจ่ายเงินปันผลดังกล่าว ต้องรอการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 30เมษายน 2568 และกำหนดจ่ายปันผลเป็นเงินสดในวันที่ 20 พฤษภาคม 2568 ทั้งนี้กำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ในวันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 14.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon