
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลสำหรับงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2567 ถึง 31 ธันวาคม 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.83 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 980.42 ล้านบาท กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติอนุมัติเรื่องดังกล่าวในวันที่ 25 เมษายน 2568 และเนื่องจากในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วรวมหุ้นละ 0.63 บาท จึงเหลือเงินปันผลที่จะจ่ายครั้งล่าสุดนี้ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 6 มีค. 2568 กำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พค. 2568
ทั้งนี้ ในปี 2567 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้ว 3 ครั้ง โดยครั้งแรกจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 3 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท จ่ายเงินปันผลในวันที่ 10 มิถุนายน 2567 ครั้งที่สองประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.42 บาท และเนื่องจากรับเงินปันผลครั้งแรกไปแล้ว จึงรับเงินปันผลส่วนที่เหลือในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ในวันที่ 6 กันยายน 2567 และครั้งที่สาม ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.63 บาท และเนื่องจากรับเงินปันผล สองครั้งแรกไปแล้ว จึงรับเงินปันผลส่วนที่เหลือในอัตราหุ้นละ 0.21 บาท ในวันที่ 12 ธันวาคม 2567
“ในปี 2567 บริษัทฯ มี EBITDA จำนวน 1,886.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มี EBITDA จำนวน 1,806.18 ล้านบาท และจ่ายเงินปันผลรวมหุ้นละ 0.63 บาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดปีก่อนที่จ่ายเงินปันผลหุ้นละ 0.60 บาทจากการดำเนินงาน รวมทั้งมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นต่ำมากที่ 0.11 เท่า เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 0.18 เท่า เนื่องจากมีเงินกู้ยืมระยะสั้นเพื่อใช้ในการดำเนินงานลดลงจาก 800 ล้านบาท ณ 31 ธันวาคม 2566 เหลือเป็นจำนวน 200 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยไม่มีภาระหนี้สินระยะยาวที่มีดอกเบี้ย ทั้งยังมีวงเงินทุนสำรองหมุนเวียนที่ยังมิได้เบิกใช้จำนวน 2,000 ล้านบาท พร้อมเข้าประมูลโครงการ M82 ที่สำคัญ บริษัทฯ ได้ดำเนินการจัดเก็บรายได้ตามสัญญาสัมปทานในอัตราใหม่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2567 ได้อย่างเรียบร้อย จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนผลการดำเนินงานปี 2568 ให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” ดร.ศักดิ์ดา กล่าว
สำหรับปี 2568 บริษัทฯ เน้นดำเนินกลยุทธ์ New Business Venture ซึ่งเป็นกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มธุรกิจและแสวงหาธุรกิจใหม่ๆ ควบคู่กับการเข้าประมูลโครงการ โดยมี
เป้าหมายหลัก คือ โครงการ M82 , M5 และจุดพักรถริมทางหลวง พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน และคาดการณ์ปริมาณการจราจรปี 2568 เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าปี 2567 ทีมีปริมาณการจราจรเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 111,922 คันต่อวัน ซึ่งปัจจุบันพบว่าปริมาณจราจรบนทางยกระดับดอนเมืองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนของการเดินทางท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่คึกคัก
นอกจากนี้ เชื่อมั่นว่า 2 บริษัทย่อย คือ บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด (ASIAM) ที่ดำเนินธุรกิจด้านงานวิศวกรรม และ บริษัท แอลฟา ดี เอ็ม เทค จำกัด ที่ได้จัดตั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อดำเนินธุรกิจให้บริการระบบชำระเงินดิจิทัล ระบบบริหารจัดการการจราจรและความปลอดภัย และระบบบริหารจัดการทรัพย์สิน จะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon