มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 159 จุด (+0.37%) แต่ดัชนี S&P500 , Nasdaq ปิดในแดนลบรับแรงกดดันจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับลงหนักในเดือน ก.พ. ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 2.35% เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯกดดันความหวังต่ออุปสงค์
เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯได้รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากสถาบัน CB อยู่ที่ 102.7 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 98.3 ถ้อยแถลงภายในระบุว่ามุมมองต่อตลาดแรงงานเริ่มเห็นทิศทางอ่อนแอลง พร้อมกับมุมมองในอนาคตต่อรายได้ที่ลดลงเช่นกันและความเชื่อมั่นที่ลดลงนั้นเกิดขึ้นกับทุกกลุ่มอายุแต่รุนแรงสุดในกลุ่มที่อายุอยู่ในช่วง 35 – 55 ขณะที่ความคาดหวังเรื่องเงินเฟ้อปรับขึ้นไปทดสอบ 6% จากก่อนหน้าที่ 5.2% เป็นเพราะราคาสินค้าจำเป็นในครัวเรือนที่ปรับขึ้น (ไข่) รวมไปถึงความกังวลปรับขึ้นภาษีศุลกากร และประเด็นนโยบายของรัฐบาลนั้นกลายเป็นประเด็นที่คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ เมื่อถามถึงแผนการซื้อบ้านพบว่ายังคงมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะได้รับการสนับสนุนจากดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านที่ลเลงในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่แผนการซื้อรถยนต์และสินค้ามูลค่าสูงอื่นๆกลับพบว่าลดลงโดยเฉพาะทีวีและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กดดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับลงอย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมกับการอ่อนค่าของ Dollar Index และทำให้ CME FED Watch เริ่มมองถึงโอกาสลดดอกเบี้ยมากขึ้นในเดือน มิ.ย. ด้านปัจจัยในประเทศวานนี้การส่งออกไทยในเดือน ม.ค. ขยายตัว 14%YoY ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเข้าสู่กรอบเป้าหมายและการขยายตัวของกิจกรรมภาคผลิต และสอดคล้องกับคาดการณ์ของ IMF ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวได้ 3.3% การส่งออกรายสินค้าพบว่ายางพารา (+45%YoY) ไก่สด (+12%YoY) อาหารทะเลกระป๋อง (+12%YoY) อาหารสัตว์เลี้ยง (+13%YoY) เครื่องคอมพิวเตอร์ (+45%YoY) โดยรวมมองเป็นบวกกับหุ้นอย่าง STA STGT TU ITC HANA SVI ขณะเดียวกันก็ได้รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมในช่วง 1 – 23 ก.พ. อยู่ที่ 6.3 ล้านราย (+10%YoY) พร้อมกับสร้างรายได้เข้าประเทศราว 3.1 แสนล้านบาท มองเป็นบวกกับหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและร้านอาหาร (AOT CENTEL MINT) ส่วนผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนวานนี้หุ้นที่กำไรดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ได้แก่ CPALL SPALI AAV วันนี้ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1200 – 1220 น่าจะฟื้นตัวได้บ้างหลังปรับฐานลงมาแรงประกอบกับผลประกอบการทยอยรายงานออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จะเป็นปัจจัยหนุน เชิงกลยุทธ์เน้นหุ้นที่กำไรออกมาดี อาทิ CPALL AAV ส่วนตัวอื่นๆก็ยังทยอยสะสมได้แต่เน้นที่หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ศูนย์การค้า (CPN) ท่องเที่ยว (MINT CENTEL) นอกจากนี้รอติดตามประชุม กนง. ความเห็นส่วนใหญ่คาดคงดอกเบี้ยระดับเดิม
CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท)
รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 7.2 พันล้านบาท (+31%YoY) หลังตัดรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 6.9 พันล้านบาท (+23%YoY, +24%QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราและตลาดคาด หนุนจากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของ (7-Eleven) ที่ +4.0% YoY จากยอดขายกลุ่มอาหารพร้อมทานและ Personal Care ที่เติบโตดี รวมกับการเติบโตของกำไรของ CPAXT ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไร 1Q25 จะเติบโต YoY ต่อเนื่องตามการเพิ่มขึ้นของยอดขาย Ready-to-eat และ Ready-to-drinks รวมถึงสินค้าใหม่ๆจาก SME เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงจากความกังวลที่ CPALL อาจเข้าลงทุนในบริษัท Seven & I เป็นโอกาสในการเข้าสะสม
AAV (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 3.02 บาท)
ปัจจัยบวกเรื่องผลประกอบการงวด 4Q24 ที่ออกมาดีกว่าคาดมีกำไรสุทธิ 357 ล้านบาท แม้จะมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายการอื่นๆอีกกว่า 1,000 ล้านบาท ได้รับผลดีจากจำนวนผู้โดยสารที่สูงถึง 5.5 ล้านคน และราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ขณะทีภาพรวมในปี 25 AAV ตั้งเป้าผู้โดยสารที่ระดับ 23-25 ล้านคน แต่จะหันมาเน้นที่เส้นทางในประเทศมากขึ้น เพราะเส้นทางระหว่างประเทศโดยเฉพาะจีนยังไม่กลับสู่ระดับปกติ และมีการแข่งขันจากสายการบินจีนมากขึ้น ขณะที่เส้นทางในประเทศมองว่ายังเติบโตได้ดีและ AAV เป็นผู้ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
