COCOCO ปักธงรายได้ปีนี้แตะ 1 หมื่นล้านบาท เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก เสริมศักยภาพการแข่งขันระยะยาว

16

มิติหุ้น – บมจ. ไทย โคโคนัท หรือ “COCOCO” ปักธงรายได้ปีนี้แตะ 1 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนมีรายได้อยู่ที่6,619.17 ล้านบาท เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก ควบคู่กับการพัฒนากลยุทธ์บริหารต้นทุน หวังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว พร้อมเร่งขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพ ผลักดันผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท ได้แก่ น้ำมะพร้าว กะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง ให้เติบโตตามเป้าหมายอย่างแข็งแกร่ง

ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ “COCOCO” เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ 2568 ราว 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2567 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 6,619.17 ล้านบาท โดยในปี 2568 นี้ บริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดทั่วโลก พร้อมพัฒนากลยุทธ์บริหารต้นทุน หวังเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว รวมถึงกลยุทธ์การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพช่วยเสริมให้ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ ได้แก่ น้ำมะพร้าว กะทิ และอาหารสัตว์เลี้ยง มียอดขายที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง

COCOCO ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กะทิ น้ำมะพร้าว มะพร้าวแปรรูป และผลไม้ ภายใต้ตราสินค้า Thaicoco และ Cocoburi รวมถึงผลิตสินค้าเพื่อการอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังมีบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยออซัม จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงสำหรับสุนัขและแมว โดยสินค้ามีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าแบรนด์ Moochie  และการรับจ้างผลิตสินค้า(Original Equipment Manufacturer หรือ OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ และอีกธุรกิจอย่างบริษัท ไทย พรีเมียม สตรีท ฟู้ด  จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไอศกรีมผลไม้จากไทย ภายใต้แบรนด์ “Thaicoco” และ “Cocoburi”

สำหรับในปี 2567 บริษัทฯ มีสัดส่วนการส่งออก 87.69% ของรายได้จากการขายและบริการ โดยมียอดขายในภูมิภาคอเมริกาเพิ่มขึ้น 48.55% ภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น 47.58% ภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 29.14% ภูมิภาคยุโรปเพิ่มขึ้น 21.63% และภูมิภาคแอฟริกาเพิ่มขึ้น 17.10%

นอกจากนี้ บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลด้านวัตถุดิบ และการบริหารประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต โดยมีมติอนุมัติโครงการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์  เพื่อรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิ ให้สอดคล้องกับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น และตอบสนองต่อยอดคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต ทั้งยังเข้ามาช่วยสนับสนุนต่อการขยายยอดขายในสหรัฐฯ และยุโรป ให้สามารถแข่งขันได้

โดยการขยายกำลังการผลิตครั้งนี้ จะช่วยขยายการเติบโต โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ในอนาคต ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ บริษัทฯ จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างการลดต้นทุนและการรักษาคุณภาพสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้ สะท้อนมายังผลการดำเนินงานที่คาดมีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต ซึ่งเมื่อโครงการในฟิลิปปินส์แล้วเสร็จ จะส่งผลให้กำลังการผลิตสูงสุดของผลิตภัณฑ์กะทิเพิ่มขึ้นเป็น 155,000 ตันต่อปี จากเดิม 99,000 ตันต่อปี

นอกเหนือจากการผลักดันให้ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้แล้วนั้น COCOCO ยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเปียก เพื่อสุขภาพสำหรับสุนัขและแมวภายใต้ตราสินค้า Moochie โดยสินค้าทั้งสองประเภทมีทั้งแบบ การจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทเอง และการรับจ้างผลิตสินค้า (Original Equipment Manufacturer หรือ OEM) ซึ่งจัดจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ มุ่งเป้าไปยังตลาดสากล ควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และศึกษาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เติบโต

ดร.วรวัฒน์ กล่าวเสริมว่า ในปี 2567 บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณดัชนี SET 100 สำหรับรอบครึ่งปีแรกของปี 2568 (1 มกราคม – 30 มิถุนายน 2568) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของปัจจัยพื้นฐานและการได้รับความสนใจอย่างต่อเนื่องจากนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งการติดอันดับในดัชนี SET 100 ครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ยืนยันถึงความสำเร็จและศักยภาพของ COCOCO แต่ยังตอกย้ำบทบาทของบริษัทในฐานะผู้นำด้านผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของไทย

บริษัทฯ  ได้รับรางวัลกลุ่ม Business Excellence สาขา Deal of the Year Awards และ Outstanding Deal Awards ในงาน SET Awards 2024  ด้านการระดมทุน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 3,000 ล้านบาท จากการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ของบริษัท ซึ่งถือว่าเป็นรางวัลที่มอบให้แก่องค์กรที่สร้างธุรกรรมทางการเงินที่โดดเด่น ท่ามกลางปัจจัยรอบด้านที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วและมีความท้าทาย และการจัดการภายในและการสร้างนวัตกรรมภายในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง COCOCO เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในวันที่ 14 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon