มิติหุ้น – Trend Spotter
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบทั้ง ดัชนี DJIA, Nasdaq และ S&P500 โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้น NVIDIA (-8.5%) หลังจากเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง ถึงแม้ว่ากำไรและรายได้จะสูงกว่าคาดใน 4Q24 แต่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลง และ Guidance แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นใน 1Q25 ที่ต่ำกว่าตลาดคาด นอกจากนี้ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และความกังวลเกี่ยวกับมาตรการของ Donald Trump
สำหรับตัวเลขทางเศรษฐกิจ สหรัฐเปิดเผย GDP 4Q24 (ครั้งที่ 2) ที่ 2.3% qoq ) ตามตลาดคาด (ไม่เปลี่ยนแปลงจากครั้งที่ 1) ในขณะที่ดัชนี Core PCE ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.7% ใน 4Q24 (สูงกว่าคาดที่ 2.5%)
สำหรับสัญญาตลาดทองคำปิดลบที่ US$2895.9/oz ถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ตลาดมองว่าการชะลอตัวในระยะสั้นจากการ take profit และเชื่อว่า Upside ของทองคำเพิ่มเติมจะมาจากปฏิกิริยาต่อมาตรการภาษี Donal Trump เพิ่มเติม
ราคาน้ำมันดิบ (WTI) ปิดที่ US$70.35/bbl ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับอุปทานที่ตึงตัว หลังจาก Donald Trump ประกาศการยกเลิกใบอนุญาติบริษัทเชฟรอน (Chevron) ในการดำเนินธุรกิจน้ำมันในเวเนซุเอลา แนะนำติดตามความคืบหน้าการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่าง Russia Ukraine โดยหากสำเร็จจะทำให้มีการยกเลิกการคว่ำบาตร Russia และทำให้ Supply น้ำมันดิบในตลาดมีมากขึ้น
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวน Side way บริเวณ 1190-1240 จุด จาก ความไม่แน่นอนท่าทีของ Donald Trump ที่ประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่นๆ 25% จาก EU ซึ่ง พร้อมกับภาษีต่อ Canada, Mexico และจะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 10%
อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นไทยมี valuation ที่ไม่แพง โดยปัจจุบัน SET index มี P/E ที่ 15.16x, Forward P/E สำหรับ FY2025 ที่ 12.79x สำหรับ บริเวณ -2.0 S.D.
ดังนั้นเราจึงแนะนำนักลงทุนในการเน้นเทรดดิ้งใน 1Q25 และ เริ่มทยอนสะสมกลุ่ม real sectors อาทิ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (SIRI AP), ค้าปลีก (CPALL MOSHI), โรงพยาบาล (BDMS BH), กลุ่ม Non-bank (MTC) และสะสมกลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW SHR)
• หุ้นแนะนำ
MTC : เราแนะนำกลุ่ม Non-bank เราเชื่อว่า MTC จะมี EPS เติบโตแข็งแกร่งในอัตรา 16.8%-22.4% ในปี FY25-27F และมีคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น เราเชื่อว่า P/BV ที่ 2.3 เท่าในปี 2025F ยังไม่สูงเกินไป หากพิจารณา ROE ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 17.4-17.9% ใน FY25-27F (Take profit : 49.50 / Stop loss : 46.25)
SHR: รายงานผลประกอบการ 4Q24 มีกำไรปกติหลัก 147 ล้านบาท (vs. 74 ล้านบาทใน 4Q23, -20 ล้านบาทใน 3Q24) มากกว่าเราและ Bloomberg consensus คาดไว้ที่ 14%/ 13% เราเชื่อว่าจะมีโมเมนตัม EPS ที่แข็งแกร่งใน 1Q25 จากความต้องการในประเทศและโรงแรมต่างประเทศ (Take profit : 2.14 / Stop loss : 1.93)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
