AH เคาะปันผล 0.48 บ. จีบพันธมิตรตปท.ต่อยอดธุรกิจ

58

มิติหุ้น-นายเย็บ ซู ชวน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาปิโก ไฮเทค (AH) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์และศูนย์บริการหลังการขายและธุรกิจบริการด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อและ IoT (Internet of Things)เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกจะยังมีความไม่แน่นอนจากภาวะการค้าโลกและสถานการณ์สงครามการค้า AHยังคงมั่นใจในศักยภาพการเติบโตระยะกลางบริษัทมองว่าการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์จะเริ่มเห็นผลในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในอนาคต

AH ยังคงเดินหน้าต่อยอดธุรกิจซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจรองรับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยานยนต์และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกโดยบริษัทให้ความสำคัญกับการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินควบคู่กับการลงทุนเชิงกลยุทธ์ โดยเตรียมใช้เงินสดที่มีอยู่เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจและกระจายการลงทุนให้สอดคล้องกับแนวทางเติบโตระยะยาว ด้วยแนวทางดังกล่าวจึงเชื่อมั่นว่า บริษัทจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้แก่ผู้ถือหุ้นพร้อมเดินหน้าสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งในไทยและต่างประเทศ

 

สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2567 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 27,002ล้านบาท ปรับตัวลดลงราว 11% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนแต่นับว่าดีกว่าภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่หดตัวถึง 20%จากแรงกดดันที่ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

ขณะที่กำไรสุทธิลดลงจากปีก่อนอยู่ที่ 747 ล้านบาทผลจากการขาดทุนในประเทศโปรตุเกส ซึ่งเกิดจากผลกระทบทางบัญชีจากInventory reduction และการตัดบัญชีสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี(Deferred Tax Asset Write-off) อย่างไรก็ตามการขาดทุนดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (One-timeEvent)และจะไม่กระทบต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอนาคตอย่างแน่นอน

นายเย็บ กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้กำไรสุทธิโดยรวมลดลง แต่ AHยังคงเติบโตได้จากกลยุทธ์กระจายความเสี่ยงผ่านธุรกิจในต่างประเทศโดยเฉพาะธุรกิจตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศมาเลเซียที่เติบโตสูงถึง 8.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ในมาเลเซียที่ AHเข้าซื้อกิจการ สามารถขยายตัวได้ถึง 218.7% ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนหลัก

อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรสุทธิยังคงอยู่ในระดับที่สามารถแข่งขันได้ขณะที่สถานะทางการเงินของบริษัทยังคงแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถลดหนี้สินรวมลง 12.8% และบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลดลง 11.2% ในขณะเดียวกัน อัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อทุน (IBD/Equity) คงที่ที่ระดับ 0.5 เท่า สะท้อนถึงการบริหารสภาพคล่องและความสามารถในการรองรับการเติบโตของธุรกิจ

ทั้งนี้ ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลอีก 0.48บาทต่อหุ้น รวมทั้งปี 2567 จ่ายเงินปันผลรวม 0.78 บาทต่อหุ้นคิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 265 ล้านบาท หรือราว 36.3% ของกำไรสุทธิซึ่งสูงกว่านโยบายจ่ายเงินปันผลที่กำหนดไว้ 30% ของกำไรสุทธิโดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผล (Record Date) วันที่ 14มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการทางการเงินที่ให้ความสำคัญกับการสร้างมูลค่าสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น

 

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon