SMART แย้ม Q1/68 รับมือความท้าทาย ชูอิฐมวลเบารักษ์โลก เตรียมจ่ายปันผล 0.0485 บาท/หุ้น เผยงบปี 67 รายได้รวม 585.53 ล้านบาท กำไรสุทธิ 87.02 ล้านบาท

23

มิติหุ้น  –  นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ทคอนกรีต จำกัด (มหาชน) (SMART) ผู้ผลิตและจำหน่ายอิฐมวลเบาด้วยระบบอบไอน้ำภายใต้ความดันสูงเพื่อใช้ในงานก่อสร้างและงานกั้นผนังอาคาร เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/ 2568  ยังคงเผชิญกับความท้าทายในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว คาดว่าการลงทุนต่าง ๆ โครงการภาครัฐจะกระตุ้นภาคอสังหาฯ ทยอยลงทุนโครงการใหม่ อย่างไรก็ตาม เทรนด์ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จะช่วยผลักดันความต้องการวัสดุก่อสร้างที่มีมาตรฐานเพิ่มขึ้น
บริษัทเดินหน้าพัฒนาอิฐมวลเบาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอบรับแนวโน้มตลาดที่ให้ความสำคัญกับวัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดพลังงาน ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าในกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้รับเหมา ทั้งในภาครัฐและเอกชน ได้ครอบคลุม
ทั้งนี้ มุ่งเน้นกลยุทธ์การตลาด แนะนำผลิตภัณฑ์กับกลุ่มเป้าหมาย ชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบา คุณภาพมาตรฐาน ISO 9001 , มาตรฐาน BS 5234 , มาตรฐาน ISO 14001 , ฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 , ฉลากลดโลกร้อน , เครื่องหมาย Green Industry , เครื่องหมาย MIT , มอก.1505-2541 (G4-G6) , เครื่องหมาย ENVIRONMENTALLY FRIENDLY , รางวัล  Best Company Performance Awards การันตีคุณภาพและมาตรฐานที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการผลิตผลิตภัณฑ์อิฐมวลเบาที่มีคุณภาพสูงสุด
อีกทั้ง เร่งขยายช่องทางจำหน่าย เพื่อเพิ่มโอกาสการแข่งขัน ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่าย ดิลเลอร์ 145 ราย ร้านค้าโมเดิร์นเทรด ได้แก่ ไทวัสดุ 91 สาขา  ดูโฮม 24 สาขา โกลบอลเฮ้าส์ 87 สาขา ควบคู่กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ผ่านช่องทาง Facebook , IG , Tiktok เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา สถาปนิก ได้ในวงกว้าง  เป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของบริษัทฯ โดยปี 2568 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ประมาณ 600 ล้านบาท
สำหรับผลประกอบการงวดปี 2567 บริษัทฯมีรายได้รวม 585.53 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 713.83  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 87.02 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 106.58 ล้านบาท ทั้งนี้ ผลประกอบการโดยรวมปรับตัวลดลง เป็นผลจากยอดคำสั่งซื้อลดลง ผลกระทบของภาวะกำลังซื้อที่รอการฟื้นตัว การก่อสร้างภาคเอกชนยังซบเซาทั้งโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการก่อสร้างเชิงพาณิชย์
“ด้วยการปรับกลยุทธ์มุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพและนวัตกรรมที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของภาคอสังหาฯ และงานโครงการภาครัฐ จะเป็นกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ พร้อมเผชิญกับความท้าทายในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สร้างการเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตที่ประมาณ 600 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทจึงมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.0485บาท หรือคิดเป็น 61.14% ของกำไรสุทธิ คิดเป็นจำนวนเงินปันผล 50.52 ล้านบาท ทั้งนี้มติดังกล่าวจะถูกนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนเมษายน เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป” นายรังสี กล่าว

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon