LH Securites วิเคราะห์หุ้น KTC ปี 68 กำไรนิวไฮต่อเนื่องท่ามกลางเศรษฐกิจที่ซบเซา กลยุทธ์มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ประวัติผ่อนจ่ายตรงนัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในไตรมาส 2 /68 เพิ่มรายได้ นำระบบดิจิทัลวิเคราะห์ข้อมูล ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายบัตรเพิ่ม 10% คาดลดดอกเบี้ยดีต่อตลาด โบรกแนะ“ถือ” ต่อ upside เหลือน้อย
บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ได้รับการวิเคราะห์จาก บริษัท หลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH Securities มองว่าหลังจากผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาทำนิวไฮรายได้ตามเป้าที่วางมีกำไรสุทธิ 7,437 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) ทำให้ตั้งเป้าหมายจะยังคงมีกำไรต่อเนื่องในปี 2568 ภายใต้พอร์ตสินเชื่อรวมที่คาดว่าจะเติบโต 4-5% โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมโต 4-5% ภายใต้เป้าการเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโต 10% พอร์ตสินเชื่อบุคคลโต 3% ส่วนเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่ของพอร์ตจำนำทะเบียน “KTC พี่เบิ้ม” 3,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( NP) ต่ำกว่าหรือเท่ากับ2% (สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 1.95%) และเป้า Credit cost ที่ 5-6% (สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 6.1%)
ต้นทุนการเงิน (cost of fund) อาจเพิ่มขึ้น 10-20 bps โดยเงินกู้ส่วนใหญ่เป็นระยะยาว ขณะที่การปรับลดดอกเบี้ย จะส่งผลดีต่อเงินกู้ระยะสั้น ด้าน Yield on loan ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นหากพอร์ตสินเชื่อบุคคลรวมถึงสินเชื่อจำนำทะเบียนเติบโตได้ดี
กลยุทธ์ปีนี้ บัตรเครดิตยังเน้นลูกค้ากลุ่มบน ซึ่งมีการผ่อนจ่ายและมีคุณภาพดี พร้อมยังรุกสร้าง การรับรู้ด้านแบรนด์ (Brand awareness) โดยเน้นกลุ่มสินเชื่อจำนำทะเบียนให้เข้มข้นขึ้น ฐานลูกค้ากลุ่มที่มีเงินเดือนมากว่า 50,000 บาท ซึ่งมีคุณภาพดี และพบว่าลูกค้ากลุ่มนี้ยังมีการผ่อนจ่ายอยู่ที่ 75-76% เพราะยังมีวินัยในการชำระหนี้ดีกว่าลูกค้าฐานเงินเดือนต่ำ ทำให้มีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีด้วย
ในไตรมาส 2 ปีนี้ จะเปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียน “KTC พี่เบิ้ม” ให้เป็นที่รู้จักในลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น และพัฒนาระบบดิจิทัล มาช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่ผ่านapplication ได้ง่ายขึ้น
KTC ประกาศจ่ายปันผลสำหรับงวดผลดำเนินงานปี 2567 @1.32 บาท XD 17 เม.ย. จ่ายเงิน 2 พ.ค. 2568 คิดเป็น Dividend Payout ที่ 45.8% คิดเป็นอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ 2.6% ต่อปี2.
โบรกจึงแนะนำให้ “ถือ” หลัง upside ราคาได้ปรับขึ้นมาจนเหลือ upside ไม่มากจากราคาเป้าหมาย ที่ปรับลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 54 บาทแล้ว (ภายใต้การประเมินโดยวิธี GGM อิง PBV ที่ 2.9X โดยการปรับลด LT-ROE ลงเหลือ 17% จากการเพิ่มขึ้นของกำไร ยังน้อยกว่าการเพิ่มทุนของส่วนทุน)
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon