CGSI : Trend Spotter

17

มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผันผวนก่อนรีบาวด์ปิดบวก ขานรับทำเนียบขาวประกาศเลื่อนเก็บภาษีสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ที่ปฏิบัติตามข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) เป็นเวลา 1 เดือน ส่งผลให้นักลงทุนคาดหวังว่าจะมีมาตรการยกเว้นภาษีอื่นๆ ออกมาเพิ่มเติม และหุ้นอย่าง Stellantis (+9.2%), General Motors (+7.2%) และ Ford (+5.8%) รวมถึงหุ้นขนาดเล็กในดัชนี Russell2000 และหุ้นกลุ่มเทคฯ (Microsoft, Tesla) ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนนโยบายการค้าระหว่างประเทศที่ยังคงมีอยู่หลังปธน. ทรัมป์กล่าวว่าความพยายามของแคนาดาในการเพิ่มความเข้มงวดด้านความปลอดภัยที่ชายแดนเพื่อจัดการกับเฟนทานิลนั้น “ยังไม่ดีพอ”

ขณะที่รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงให้ภาพที่คละกัน โดย ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมจาก ADP เดือนก.พ. นั้นเพิ่มขึ้นเพียง 7.7 หมื่นตำแหน่ง ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.41 แสนตำแหน่ง (vs. เดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.86 แสนตำแหน่ง) อย่างไรก็ตาม ดัชนี PMI ทั้งจาก S&P Global และ ISM ออกมาสอดคล้องกันว่าภาคบริการสหรัฐในเดือนก.พ. ยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. และ สูงกว่าที่ตลาดคาด

ติดตามการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคการเกษตรและตัวเลขภาคตลาดแรงงานสหรัฐในวันพรุ่งนี้ (7 มี.ค.)

สำหรับตลาดหุ้นภูมิภาค ติดตามการประชุมของ ECB วันนี้ ที่ตลาดคาดว่าจะมีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bp มาที่ระดับ 2.65%

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI (-2.9%) ร่วงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 หลัง EIA รายงานตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 3.61 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.6 ล้านบาร์เรล (vs. ก่อนหน้านี้ที่ลดลง 2.33 ล้านบาร์เรล) กอปรกับแรงกดดันจากสงครามการค้าที่อาจส่งผลต่ออุปสงค์น้ำมัน และการที่ OPEC+ เดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนเม.ย. ตามแผนเดิม

• SET Index :
เราคาดว่า SET Index จะแกว่งผันผวนและอาจพักฐานลงได้ มองกรอบบริเวณ 1,185-1,220 จุด หลังเมื่อวานนี้ (5 มี.ค.) พุ่งขึ้นมากว่า 29 จุด ยืนเหนือบริเวณ 1,200 จุด รับแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ ก่อนการขึ้น XD ของหุ้นหลายตัว

ทั้งนี้ เราเชื่อว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองและ ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีของสหรัฐน่าจะกดดันดัชนี SET ในเดือนมี.ค. 2025 เราจึงปรับลดเป้าดัชนี SET สิ้นปี 2025 เป็น 1,380 จุด ซึ่งจะเท่ากับ P/E 14x ในปี FY26, -2SD ของค่าเฉลี่ย 10 ปี (vs. จากเดิมที่ 1,530 จุด) ขณะที่เราเน้นการลงทุนในหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและหุ้นในกลุ่มปลอดภัย

ประเด็นสำคัญที่ประชุมนักวิเคราะห์
ได้แก่ BH
โดย เมื่อวานนี้ รพ. คาดว่าจะมีรายได้ลดลง 5% yoy ใน 1Q25 เนื่องจากรอมฎอนที่เริ่มต้นเร็วขึ้นในปีนี้ โดยรายได้จากผู้ป่วยชาวไทยที่เพิ่มขึ้นใน 4Q24 ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยที่มีประกันและการปรับส่วนลดราคา ขณะที่รายได้จากผู้ป่วยในตะวันออกกลางลดลง โดยเฉพาะจากคูเวตและโอมาน

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่ม China Play มี Sentiment บวกจากการที่นายกฯ หลี่ เฉียง ส่งสัญญาณในที่ประชุม NPC ปลดล็อกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ กระตุ้นการบริโภคสู่เป้าหมายการเติบโต GDP ราว 5% ในปี 2025 พร้อมส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินจีนต่อไป

• หุ้นแนะนำ
PIN : PIN รายงานผลประกอบการปี 2024 ทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยมียอดโอนที่ดินเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 750 ไร่ ทั้งนี้ เราคาดว่าบริษัทจะมีกำไรปกติต่อหุ้นเติบโตแข็งแกร่งในปี 2024-27 และการประเมินมูลค่ายังน่าสนใจ เราจึงแนะนำให้สะสมหุ้นก่อนที่ PIN จะเปิดโครงการ IE ใหม่และขยายพื้นที่ PIN 3 ในปี 2025-26

(Take profit : 6.50 / Stop loss : 6.00)

HANA : แม้ว่าธุรกิจน่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายใน 1H25 แต่เราเริ่มเห็นปัจจัยบวกจากการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึงผลขาดทุนจาก Powermaster ที่น่าจะลดลงใน 2H25 ทั้งนี้ เราเชื่อว่าราคาหุ้นในปัจจุบันน่าจะสะท้อนปัจจัยลบส่วนใหญ่แล้วจึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

(Take profit : 17.5 / Stop loss : 16.0)

#MacroWealthResearch
#CGSInternational

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon