ซินเน็คฯ เดินเกมรุกปี 68 ตั้งเป้ารายได้โต 13% ปรับพอร์ตสินค้าเทคโนโลยี รับเทรนด์ AI หนุนองค์กรแบบ Total Solution

39

มิติหุ้น – บมจ.ซินเน็คฯ (ประเทศไทย) (SYNEX) ปักหมุดปี 2568 พร้อมทะยานสู่ความสำเร็จใหม่ ตอกย้ำ  No.1 IT Ecosystem มุ่งเป็น “Trusted Partner” จากความไว้วางใจจากพาร์ทเนอร์กว่า 70 แบรนด์ชั้นนำระดับโลก เดินหน้าปรับพอร์ตสินค้า โฟกัส Global Trend มองสัญญาณปีนี้ กระแส AI หนุนตลาดอุปกรณ์ไอทีบูม พร้อมนำเทคโนโลยีเพิ่มศักยภาพการทำงานเข้าถึงองค์กร ตอบโจทย์แบบ Total Solution พร้อมวางเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 13% จากเดิมที่ปี 67 ทำรายได้อยู่ที่ 41,904 ​ล้านบาท กำไร 627 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 23% และเตรียมจ่ายปันผล 0.34 บาท/หุ้น 

นางสาวสุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ดิสทริบิวเตอร์ผู้นำด้านไอทีอีโคซิสเต็ม เปิดเผยว่า ซินเน็คฯ กางแผนปี 2568 เดินหน้า ตั้งเป้ารายได้เติบโตจากปีก่อน 13% จากการขยายตลาดและขยายฐานลูกค้า ปักธงเป็นผู้นำเทรนด์เทคโนโลยี Total Solution ด้วยการนำเข้าสินค้านวัตกรรมที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค พร้อมการให้บริการอย่างครบวงจร (Services provider) ยกระดับสู่การเป็น Trusted Partner จากแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำกว่า 70 แบรนด์ระดับโลก ที่ไว้วางใจให้ซินเน็คเป็นตัวแทนจำหน่ายในประเทศไทย ด้วยพอร์ตสินค้าที่ค่อนข้างหลากหลาย ทำให้ซินเน็คฯ สามารถโฟกัสสินค้าใหม่ๆ ได้ตาม Global Trend

สำหรับกลยุทธ์การปรับพอร์ตสินค้าใหม่ในปีนี้ แบ่งเป็น 6 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.กลุ่มสินค้าแอปเปิ้ล 2.กลุ่มสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ 3.กลุ่มเกมมิ่งและแก็ดเจ็ต 4.กลุ่มคอมเมอร์เชียล 5.กลุ่มคอนซูเมอร์ และ 6.กลุ่มเอนเตอร์ไพรส์แอนด์โซลูชั่น เพื่อโฟกัสในแต่ละกลุ่มสินค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

พร้อมจับตาไฮไลท์ในกลุ่มเครื่องมือสื่อสาร ทั้งกลุ่มสินค้าแอปเปิ้ล สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable) เป็นกลุ่มที่เราจะขยายตลาดเชิงรุก และมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวมทั้ง มีหลากหลายแบรนด์ที่เตรียมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ที่รองรับ AI และระบบอัจฉริยะ ส่งผลให้เกิดการอัปเกรดอุปกรณ์ของผู้บริโภค ซึ่งเรามองเห็นโอกาสขยายพอร์ตสินค้ากลุ่มนี้ต่อเนื่อง และการนำเข้าสินค้าใหม่ที่รองรับเทรนด์ AI มากขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดสินค้าไอทีเข้าสู่ช่วง อัปเกรดรอบใหม่หลังยุคโควิด คาดว่าผู้บริโภคและองค์กรจะทยอยเปลี่ยน ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมถึงการอัปเกรด Windows 10 ในภาคธุรกิจ ขณะที่ การลงทุนของภาครัฐเดินหน้าต่อเนื่องในการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้ในองค์กร จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้กลุ่มลูกค้าองค์กรต้องอัปเกรดอุปกรณ์ให้รองรับการทำงาน เป็นโอกาสของซินเน็คฯ ขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ พร้อมให้บริการแบบ Total Solution

 อีกทั้ง กลุ่มสินค้าเอนเตอร์ไพรส์แอนด์โซลูชั่น มุ่งเน้นโฟกัสในกลุ่มธุรกิจคลาวด์ โดยล่าสุด ซินเน็คฯ​ได้รับการแต่งตั้งเป็นดิสทริบิวเตอร์ของ Amazon Web Services (AWS) ซึ่งจะเข้ามาเติมเต็มในพอร์ตธุรกิจคลาวด์ และเสริมกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์ อย่างแข็งแกร่ง

ด้านกลุ่มสินค้าเกมมิ่ง เดินหน้าต่อยอดความสำเร็จของ Nintendo Authorized Store by Synnex ที่เปิดตัวช่วงปลายปี 2567 โดยปีนี้จะเริ่มรับรู้รายได้เต็มปี พร้อมการเปิดตัว Nintendo Switch รุ่นใหม่ ที่จะเข้ามาขายในประเทศไทยในไตรมาส 2 ปี 2568 นี้ คาดว่าจะกระตุ้นตลาดเกมมิ่งให้กลับมาคึกคัก ย้ำการเป็น No.1 Gaming Distributor ในประเทศไทย

“ปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า AI เป็นเทรนด์ที่มาแรง และไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฮม สมาร์ทโฟน ไปจนถึงอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable) และเกมมิ่ง ซึ่งช่วยยกระดับความสะดวกสบายผู้บริโภคในการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้นด้วยเทคโนโลยี อีกทั้ง เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล แม้ภายใต้สภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้กำลังซื้อลดลงในบางกลุ่มสินค้า แต่ก็มั่นใจว่ายังสามารถบริหารจัดการ Product Mix ได้อย่างดี โดยวางกลยุทธ์มุ่งเน้นกลุ่มสินค้าที่มีโอกาสเติบโตสูง” นางสาวสุธิดา กล่าว

สำหรับผลประกอบการปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 41,904 ​ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากการเติบโตในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple และ สมาร์ทโฟน โดยเฉพาะนาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) ที่เติบโตอย่างโดดเด่น รวมไปถึงกลุ่ม กลุ่มคอมเมอร์เชียล และ กลุ่มเอนเตอร์ไพรส์แอนด์โซลูชั่น ที่บริษัทฯ ขยายฐานลูกค้ารองรับการเติบโตทั้งด้านโซลูชั่น และซอฟต์แวร์ โดยบริษัท มีกำไรขั้นต้น 1,693 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.2% และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 627 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115 ​ล้านบาท หรือ 22.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน

ทั้งนี้ บริษัทฯ​ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.34 บาท/หุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ในวันที่ 17 มีนาคม 2568 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผล ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 และกำหนดการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 หลังผ่านมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น ในวันที่ 23 เมษายน 2568 นี้

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon