มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดพุ่งทั้ง 3 ดัชนีหลัก ขานรับปธน. ทรัมป์ส่งสัญญาณยืดหยุ่นมาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) มีผลบังคับใช้ในขอบเขตที่แคบลง โดยจะเป็นการใช้แบบเฉพาะเจาะจงตามกลุ่มเป้าหมายแทนการใช้เป็นวงกว้าง หรืออาจจะมีการเลื่อนเก็บภาษีในบางภาคส่วน อาทิ ยา ยานยนต์ หรือเซมิคอนดักเตอร์ ออกไป ซึ่งอาจทำให้สหรัฐหลีกเลี่ยงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้ดัชนี VIX ที่วัดความวิตกกังวลลดลงกว่า 9.3% และตลาดหุ้นสหรัฐมีแรงซื้อเข้ามานำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย (+4.1%) รวมถึงดัชนี Russell2000 (+2.6%) และหุ้นกลุ่มเทคฯ (Nvidia +3.2%, AMD +7%, Tesla +11.9%)
สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐอย่างดัชนี PMI เดือนมี.ค. เมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) ออกมาผสมสผาน โดยในภาคการผลิตมีการขยายตัวลดลงมาอยู่ในโซนภาวะหดตัวที่ระดับ 49.8 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 51.9 (vs. เดือนก.พ. 52.7) ขณะที่ในภาคการบริการยังคงอยู่ในโซนขยายตัวโดยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 54.3 สูงกว่าตลาดคาดที่ 51.2 (vs. เดือนก.พ. 51.0)
วันนี้ ติดตามรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB และยอดขายบ้านใหม่ รวมถึงดัชนี PCE เพื่อหาแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐและคาดการณ์การตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
นอกจากนี้ แม้จะมีรายงานว่ากลุ่ม OPEC+ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ค. ตามแผนเดิม ขณะที่การเจรจายุติสงครามในยูเครนที่จะส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐสิ้นสุดลงยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตาม โพสต์บน Truth Social ของทรัมป์ว่าจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลาในอัตรา 25% ได้ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง (+1.2%)
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบแคบ บริเวณ 1,180-1,200 จุด โดยมีแรงสนับสนุนจาก Sentiment บวกตามดัชนี S&P500 ที่กลับมาแตะทำนิวไฮในรอบ 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เรามองว่าตลาดจะยังคงมีท่าที wait and see เนื่องจากแม้ว่าตลาดจะเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรตอบโต้ของทรัมป์แล้ว แต่เรามองว่าความไม่แน่นอนนโยบายการค้าระหว่างต่างประเทศของทรัมป์ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงมีอยู่ ขณะที่ปัจจัยในประเทศ ตลาดยังคงรอติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศที่ฝ่ายค้านได้เปิดญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีฯ เมื่อวานนี้เป็นวันแรก (24-25 มี.ค.) ซึ่งหากมีการดำเนินการอภิปรายตามกรอบเวลา สภาผู้แทนราษฎรจะมีการลงมติในวันที่ 26 มี.ค. นี้
• หุ้นแนะนำ
KTB : เราแนะนำการลงทุนในหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงท่ามกลางความไม่แน่นอนนโยบายภาษีศุลกากรของปธน. ทรัมป์ และยังขาดปัจจัยสนับสนุนในประเทศใหม่ โดยเราเชื่อว่า KTB จะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงและมีการประเมินมูลค่าหุ้นที่น่าสนใจ
(Take profit : 24.5 / Stop loss : 23.3)
HANA : แม้ธุรกิจน่าจะเผชิญความท้าทายใน 1H25 เราเริ่มเห็น Risk to reward ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ผู้บริหารคาดว่าจะเห็นการขาดทุนที่ลดลงสำหรับ Powermaster ในกลางปี 2025F หลังตัดสินใจหยุดการผลิต Silicon เพราะเสียเปรียบด้านต้นทุน
(Take profit : 17.7 / Stop loss : 16.1)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
