JMART ทริสให้เรตติ้งองค์กรแกร่ง  เล็งออกหุ้นกู้เสริมทุนหมุนเวียน 

99

ทริสเรตติ้ง ให้ BBB ในหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ JMART มูลค่าสูงสุด 1.5 พันล้านบาท ครบกำหนดภายใน 2ปีครึ่ง  ส่วนเครดิตองค์กรยังแกร่งอยู่ที่ BBB+ เหตุรายได้หลักจาก 3 ธุรกิจยังแข็งแกร่งจาก 3 ธุรกิจ บริหารหนี้ ขายมือถือ และ อสังหาฯ 

 

ทริสเรทติ้ง ได้จัดอันดับเครดิต “BBB” ให้กับหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ของบริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)  หรือ JMART มูลค่าสูงสุด 1.5 พันล้านบาท ซึ่งจะครบกำหนดภายใน 2 ปี 6 เดือน โดยบริษัทวางแผนใช้เงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ใหม่เพื่อชำระหนี้และเสริมเงินทุนหมุนเวียน

ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังคงอันดับเครดิตองค์กรของ JMART ที่ระดับ “BBB+” และหุ้นกู้ชุดปัจจุบันที่ระดับ “BBB” เพราะมีแนวโน้ม คงที่ (Stable) หุ้นกู้แตกต่างจากอันดับเครดิตองค์กร เนื่องจากโครงสร้างความด้อยสิทธิของหุ้นกู้ เทียบกับภาระหนี้ของบริษัทย่อย ถูกจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้ต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรเป็นผลมาจากความด้อยสิทธิของหนี้ไม่มีหลักประกันของ JMART ซึ่งเป็นรองหนี้ของบริษัทย่อยในแง่ของสิทธิในการเรียกร้องสินทรัพย์ของบริษัท ณ เดือนธันวาคม 2567 อีกทั้งสัดส่วนหนี้ที่มีภาระสิทธิของ JMART ต่อหนี้สินรวมอยู่ที่ 61% สะท้อนถึงการเสียเปรียบของเจ้าหนี้ของ JMART ต่อเจ้าหนี้ที่มีภาระสิทธิในสินทรัพย์ของบริษัท

ทริสเรทติ้งแสดงความมั่นใจในความสามารถของ JMART ในการรักษาสมดุลทางการเงิน ทำให้ สถานะทางธุรกิจ ของ JMART อยู่ระดับปานกลาง ปัจจัยยสนับสนุนยังมีรายได้หลักจากบริษัทย่อย 3  กลุ่ม 

1.JMT Network Services (JMT) ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (อันดับเครดิต: BBB+/Stable)

2.Jaymart Mobile Co., Ltd. (JMB) ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ

3.JAS Asset PLC (J-Asset) ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

แม้เผชิญความท้าทายในตลาด มีการวางแผนกลยุทธ์ของบริษัทลูกได้ดี โดยเฉพาะ JMT มีบทบาทสำคัญในฐานะผู้ทำกำไรหลักของกลุ่มบริษัท  ทำให้ทิศทางการบริหารการเงิน JMART จะลดภาระหนี้สินรวม อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA จาก 3.8 เท่าในปี 2567 เป็น 3.4 เท่าในปี 2568 สะท้อนถึงการบริหารสภาพคล่องอย่างระมัดระวังเพื่อลดภาระหนี้

ในปี 2568 บริษัทมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 3.9 พันล้านบาท โดย JMART ได้เตรียมวงเงินสินเชื่อไว้รองรับ และมีแผนออกหุ้นกู้เพิ่มเติมเพื่อเสริมเงินทุนหมุนเวียน และลดข้อกังวลเรื่องสภาพคล่องสะท้อนใได้ถึงความรอบคอบในการจัดการหนี้สินและเสถียรภาพทางการเงิน แม้จะเผชิญกับภาวะตลาดที่ท้าทาย