มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกเล็กน้อยต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันขานรับความหวังว่านโยบายภาษีศุลกากรที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. ของปธน. ทรัมป์จะมีขอบเขตการบังคับใช้ที่แคบลง แม้ว่ารายงานตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ (25 มี.ค.) ที่ออกมาต่ำกว่าคาดจะสะท้อนถึงมุมมองของผู้บริโภคในสหรัฐที่ลดลงเกี่ยวกับรายได้ ธุรกิจและสภาพการจ้างงานในระยะสั้นก็ตาม
โดยตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB เดือนมี.ค. อยู่ที่ระดับ 92.9 ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 94.2 (vs. เดือนก.พ. 100.1) เช่นเดียวกับดัชนีวัดความคาดหวังผู้บริโภคในอนาคตที่ลดลงเหลือ 65.2 ต่ำสุดในรอบ 12 ปี
ขณะที่ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นจากเดือนม.ค. 12,000 ยูนิต สู่ระดับ 6.76 แสนยูนิต แต่ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 6.82 แสนยูนิต
ติดตามการเปิดเผยตัวเลข GDP 4Q24 สหรัฐ (27 มี.ค.) และดัชนี PCE (28 มี.ค.) เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่จะส่งผลต่อการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด
ความคาดหวังว่าทรัมป์จะผ่อนคลายมาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์ยังเป็น Sentiment บวกให้ดัชนี STOXX600 (+0.7%) และ FTSE100 (+0.3%) รีบาวด์ปิดบวก
สำหรับราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมา (-0.2%) หลังสหรัฐเผยว่ายูเครนและรัสเซียบรรลุข้อตกลงการรักษาความปลอดภัยการเดินเรือในทะเลดำแล้ว โดยทั้งสองประเทศยังตกลงที่จะยุติการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน ส่งผลให้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐอาจสิ้นสุดลงและจะกระทบให้อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น ติดตามรายงานตัวเลขสต็อกสินค้าน้ำมันดิบจาก EIA วันนี้
• SET Index : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัวบริเวณ 1,180-1,195 จุด
แม้จะเผชิญแรงกดดันจากการที่ไทยอยู่ในรายชื่อ “Dirty15” ซึ่งคือกลุ่ม 10-15 ประเทศแรกที่มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากที่สุด (ไทยเป็นประเทศที่มีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับที่ 11)
อย่างไรก็ตาม เรามองว่าดัชนี SET จะยังสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,180 จุดได้ และ ตลาดรอความชัดเจนอีกทีในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่มีกำหนดผลบังคับใช้ Reciprocal Tariffs ของทรัมป์
ทั้งนี้ หากไทยเผชิญกับมาตรการเรียกเก็บภาษีของทรัมป์ เรามองว่าหุ้นกลุ่มสินค้าส่งออกหลักของไทยไปยังสหรัฐอย่างอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบมากที่สุด
สำหรับปัจจัยในประเทศ วันนี้ติดตามการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร เวลา 10.00 น. ที่เราเชื่อว่านายกรัฐมนตรีน่าจะรอดจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบนี้
• หุ้นแนะนำ
CRC :
เราเชื่อว่า SSSG ในเดือนม.ค.-ก.พ. 2025 ที่ -4% อาจจะกดดันราคาหุ้นในระยะสั้น แต่เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อ เนื่องจากเราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวใน 2H25 และปี FY26
เราจึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” เพราะความเสี่ยง-ผลตอบแทนน่าสนใจ
(Take profit : 27.00 / Stop loss : 25.00)
AMATA :
เราคาดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าของทรัมป์จะช่วยให้ AMATA ได้รับประโยชน์จาก FDI ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เรามองว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและ AMATA มีแนวโน้มทำกำไรสูงในปี 2025-26
(Take profit : 22.3 / Stop loss : 20.7)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon