มิติหุ้น – Trend Spotter
• สรุปภาพรวมตลาด : ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงกลับมาปิดลบ เผชิญแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคฯ (Nvidia -5.7%, Tesla -5.6%, Alphabet -3.3%) จากแรงกดดันมาตรการภาษีศุลกากรของปธน. ทรัมป์ที่เพิ่มขึ้น หลังทำเนียบขาวกล่าวว่าทรัมป์ได้ลงนามคำสั่งเรียกเก็บภาษีชุดใหม่อัตรา 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์ และจะมีการแถลงข่าวในวันพุธตามเวลา ET มีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. เช่นกัน ส่งผลให้หุ้นอย่าง GM (-3.1%) และ Stellantis (-3.6%) ปรับตัวลดลง
วันนี้ ติดตามรายงานตัวเลข GDP4Q24 และจำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก รวมถึงตัวเลขดัชนี PCE สหรัฐในวันพรุ่งนี้ (28 มี.ค.)
ในส่วนของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ +1.1% หลัง EIA รายงานตัวเลขสินค้าคงคลังน้ำมันดิบลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะลดลง 9.6 แสนบาร์เรล กอปรกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นหลังทรัมป์ขู่เรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% ต่อประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา
• SET Index :
เราคาดว่า SET Index จะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,180-1,200 จุด และ ระวังแรงขายกลุ่มอิเล็กทริอนิคส์ ท่ามกลางแรงกดดันจาก Sentiment ลบตามตลาดหุ้นสหรัฐหลังทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า ทั้งนี้ เราเชื่อว่าการเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ กอปรกับแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกที่เผชิญกับความท้าทายในปีนี้
ประเด็นดังกล่าวเป็น Sentiment ลบต่อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ โดย KCE จะได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากมีสัดส่วนการขายในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่สูงถึง 75% ขณะที่ HANA และ DELTA ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน
สำหรับปัจจัยในประเทศ เมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) สภาฯ มีมติเสียงส่วนใหญ่ไว้วางใจให้นางสาวแพทองธารเป็นนายกฯ ต่อสอดคล้องกับที่เราและตลาดคาด ขณะที่การประกาศตรึงค่าไฟงวด พ.ค.-ส.ค. ที่ 4.15 บาท/หน่วย ของกกพ. เรามองว่าเป็นเพียงแค่ปัจจัยบวกในระยะสั้น
วันนี้ ติดตามการประชุมครม. ที่จะมีการพิจารณารายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2026 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท, ร่างพ.ร.บ. Entertainment Complex, พ.ร.ก. เพื่อเพิ่มอำนาจให้ ก.ล.ต. สกัดปั่นหุ้น, มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ EV
และ ประเด็นสำคัญอื่นเกี่ยวกับตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ (26 มี.ค.) ได้แก่ ITC (-7.5%) หลังตลาดคาดว่าผลประกอบการ 1Q25 อาจจะออกมาอ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่ HMPRO (+9.1%) หลังบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน
• หุ้นแนะนำ
CPALL :
เราเชื่อว่า CPALL ไม่มีปัจจัย overhang แล้วหลังปฏิเสธข่าวการเข้าร่วมลงทุน Management Buyout (MBO) ของบริษัท Seven & i Holdings (7&i) และมองว่า CPALL ยังน่าสนใจเพราะซื้อขายที่ P/E 17x ในปี FY25 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 18x
(Take profit : 51.75 / Stop loss : 49.25)
PIN :
เรายังแนะนำ “ซื้อ” เพราะ PIN น่าจะมีกำไรเติบโตสูงขึ้นในปี 2026 เมื่อโครงการ IE ใหม่และโครงการขยาย PIN 3 แล้วเสร็จ
(Take profit : 6.85 / Stop loss : 6.15)
#MacroWealthResearch
#CGSInternational
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon