ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน ท่ามกลางความกังวลต่อความเสี่ยงจาก
สงครามการค้า และการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ
ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา
(+) ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเดือน หลังตลาดยังคงกังวลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจากการบังคับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ โดยนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็กในอัตราร้อยละ 25 ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ในขณะที่การเรียกเก็บภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 พ.ค. ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้อุปสงค์การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น เนื่องจากรถยนต์รุ่นใหม่รวมทั้งรถยนต์ไฟฟ้าจะมีราคาสูงขึ้น
(+) โรงกลั่นน้ำมันรายใหญ่แห่งหนึ่งในอินเดียประกาศจะระงับการนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา หลังประธานาธิบดีสหรัฐฯประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศที่นำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาในอัตราร้อยละ 25 ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าอุปทานน้ำมันโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว
(-) อย่างไรก็ตาม จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นคำร้องสวัสดิการจากการว่างงานสิ้นสุด ณ วันที่ 22 มี.ค. ปรับลดลง 1,000 รายจากสัปดาห์ก่อนหน้า สู่ระดับ 224,000 ราย
ราคาน้ำมันเบนซิน : ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการณ์ว่าอุปสงค์การนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียจะลดลง จากการอ่อนค่าของสกุลเงินรูเปียห์ (Indonesian Rupiah: IDR) สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเงินในปี 2541 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาน้ำมันดีเซล : ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังของโรงกลั่นน้ำมันในเวียดนามปรับเพิ่มสูงขึ้นจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ปรับลดลง จนกระทั่งมีการดำเนินการส่งออกน้ำมันดีเซลส่วนเกินเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon