KAsset  ผ่ากองทุนThaiESG  ความหวังดีดดัชนีหุ้นไทย 

42

 

KAsset ผ่า 3 กองทุนThaiESG ทางเลือกเพิ่มมิติลงทุนหลากหลาย ขึ้นอยู่กับวงเงินส่วนลดภาษี นโยบาย สภาพคล่อง เกณฑ์เลือกตัดสินใจให้น้ำหนักจากนักลงทุน คาดเติมเม็ดเงินเข้าตลาดหุ้นไทยราว 3 หมื่นล้าน กระตุ้นดัชนีSETมีแรงดีด

 

“ธิดาศิริ ศรีสมิต” รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด  หรือ บลจ.กสิกรไทย ประเมินความน่าสนใจของเงื่อนไขThai ESGX มีเงื่อนไขการถือครอง 5 ปีมีความเหมาะสมเนื่องจากไม่ได้สั้นเกินไปสำหรับการส่งเสริมให้เกิดการออมและการลงทุนระยะยาวและไม่ได้ยาวเกินไปที่อาจทำให้เป็นประเด็นสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องในระดับหนึ่ง แต่ปีนี้มีวงเงินลดหย่อนภาษีค่อนข้างหลากหลาย ดังนั้นคาดว่าผู้ถือครองในกองทุน LTF ที่จะโอนย้ายมากองทุน ThaiESGX  พิจารณาจากวงเงินลดหย่อนของกองทุนประหยัดภาษีประกอบกับ นโยบายการลงทุน ประเภทสินทรัพย์ ระยะเวลาถือครอง รวมถึงสภาพคล่อง ตลอดจนมูลค่าจำนวนเงินที่ต้องการลดหย่อนฐานภาษีช่วยในการคัดเลือกและตัดสินใจ 

 

เทียบ 3 กองทุนลดภาษี ESG-LTF

 

 สำหรับกองทุนประหยัดภาษี ประกอบด้วย 

  1.       กองทุน ThaiESG วงเงิน 3 แสนบาท กำหนด สัดส่วนหุ้นย่งยืนต่ำกว่า 80% ของ NAV ทั้งกองทุนสารหนี้ กองทุนตราสารทุน รวมถึงกองทุนผสมตามบความเสี่ยงที่รับได้ และสลับ (Switch) ไปมา ระหว่างกองทุน ThaiESG ด้วยกันภายใน บลจ. เดียวกันได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม
  2.       กองทุน ThaiESGX วงเงินลงทุนใหม่ 3 แสนบาท และวงเงิน LTF โอนมาทั้งก้อนโดยได้การลดหย่อนวงเงิน 5 แสนบาท (3 แสนบาทในปีแรก และปีละ 5 หมื่นบาทใน 4 ปีถัดไป) กองทุน ThaiESGX ลงทุนในสินทรัพย์ในกลุ่มความยั่งยืน ไม่น้อยกว่า 80% และต้องลงทุนในหุ้นไทยที่ผ่านเกณฑ์ความยั่งยืนไม่น้อยกว่า 65% ของ NAV

 

  1.   กองทุน RMF ในวงเงิน 5 แสนบาท การออมเพื่อการเกษียณอื่นๆ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ต้องถือหน่วยลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี ขายได้ตอนอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทางเลือกในการลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ทั้งไทยและต่างประเทศ

 

ESG เติม3หมื่นล.ปลุกหุ้นไทยดีด

 

 คาดว่าเม็ดเงินใหม่ของกองทุน ThaiESGX ในวงเงินลดหย่อน 3 แสนบาท จะใกล้เคียงกับเม็ดเงินที่เข้ากองทุน ThaiESG ในปีก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท  จะมีส่วนช่วยสนับสนุนสร้างความคึกคักให้กับตลาดหุ้นได้ระดับหนึ่ง เพราะมีข้อกำหนดกองทุน ThaiESGX ต้องมีลงทุนภายในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 2568  และยึังมีแรงขายของกองทุน LTF เดิมที่คาดว่าจะชะลอลงด้วยเนื่องจากบางส่วนจะมีการโอนย้ายมากองทุน ThaiESGX

 

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ThaiESG ได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี แต่การไหลของเงิน(Flows) พุ่งไปที่กองทุนประเภทตราสารหนี้ เนื่องจากสภาวะตลาดหุ้นไทยในปีที่ผ่านมาไม่เอื้ออำนวยและอัตราการเติบโตที่ต่ำกว่าคาด อีกทั้งผลตอบแทนของกองทุนเป็นไปตามภาวะตลาด

“ปัจจุบันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับตัวลงมาค่อนข้างมากและอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในเชิง Valuation ดังนั้นจึงมองว่า Downside ต่อจากนี้อาจจะค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะในหุ้นยั่งยืนกลุ่มที่สามารถจ่ายปันผลในระดับที่ดีและสม่ำเสมอรวมถึงอยู่ในระดับ Valuation ที่ต่ำ สามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้”