Naked Short… ในวันที่ความจริงเปิด

364

สัปดาห์ที่ผ่านมา มีเรื่องเซอร์ไพรส์ ครม.อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.ก.เพิ่มอำนาจ ก.ล.ต. เพื่อสกัดการปั่นหุ้น และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน และความน่าเชื่อถือในตลาดทุน ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 6 ข้อ

แต่หนึ่งในนั้นที่เป็นไฮไลท์สำคัญเรียกเสียงฮือฮา คือ การเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบและการกำกับดูแลการขายหลักทรัพย์โดยที่ยังไม่มีหลักทรัพย์อยู่ใน ครอบครอง (การขายชอร์ต) หรือ Naked Short

     การเพิ่มอำนาจในข้อดังกล่าว ได้คลายข้อสงสัยที่มีมานาน เพราะเท่ากับว่าหน่วยงานกำกับตลาดหุ้นยอมรับว่า ตลาดหุ้นไทย มี Naked Short มิเช่นนั้น จะเพิ่มอำนาจการตรวจสอบให้กับก.ล.ต. เพื่อจัดการกับ Naked Short ทำไมกัน

เรื่อง Naked Short เป็นเรื่องที่ ผู้ร่วมตลาดในตลาดทุนไม่ว่าจะเป็นผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นบจ.  ต่างออกมาเรียกร้อง ป้องปากตระโกนให้หน่วยงานกำกับตรวจสอบ และจัดการมานานมากแล้ว ตั้งแต่สมัยผู้บริหาร SET และ ก.ล.ต. ชุดก่อนหน้านี้ แต่กลับเพิกเฉย ไม่ยอมรับ และไม่ทำหน้าที่ตรวจสอบ

จนเกิดข้อวิพากษ์กันให้ขรมว่า โบรกเกอร์มีส่วนเอี่ยว เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะการที่จะทำ Naked Short ได้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ลงทุน ตาสีตาสาจะทำได้เอง เพราะทุกธุรกรรมการซื้อขายต้องผ่านหูผ่านตาโบรกเกอร์

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มอำนาจให้กับก.ล.ต. นั้น อาจเรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่ “วัวหายล้อมคอก” เพราะทุกวันนี้นั้นตลาดหุ้นไทย ถูกNaked Short  ชอร์ตเซล และHFT  ทำลายจนตลาดหุ้นสั่นคลอน ดัชนีหุ้นดิ่งเหว จะหลุด 1,000 จุดอยู่มะรอมมะร่อ

นอกจากนี้ มูลค่าซื้อขายหุ้นไทยเบาบางจน โดยสัปดาห์ที่ผ่านมาหลุดต่ำกว่าระดับ 3 หมื่นลบ. เหลือเพียง 2.6 หมื่นล้านบาทต่อวัน จากระดับเฉลี่ยปีนี้ที่ 4.3 หมื่นล้านบาทต่อวัน

 

“ปัดฝุ่น…แปรรูปตลาดหลักทรัพย์”

  “การแก้ไขกฎหมายเพื่อเข้ามาจัดการปัญหา และเรียกความเชื่อมั่น ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรจะทำ แต่ขณะเดียวกันมันถึงเวลาที่จะต้องมาคิดและพิจารณาเรื่องการแปรรูปตลาดหลักทรัพย์อย่างจริงจังแล้วหรือไม่ เพราะทุกวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ไม่มีเจ้าของตัวจริงทำให้การจัดการต่าง ๆถูกละเลย ขาดการพัฒนา”  

กระทรวงการคลังไม่ใช่เจ้าของตัวจริงเพราะตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง รัฐไม่ได้เป็นผู้ให้เงินจัดตั้ง  เป็นการกู้เงินจากIFCT  แต่ด้วยอำนาจทางการเมืองทำให้มีสิทธิมีเสียงในการส่งคนเข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญ ขณะที่ฟากโบรกเกอร์เองต่างอ้างสิทธิในการใส่เงินร่วมลงขันจัดตั้ง ทำให้มีโควต้าส่งคนเข้ามานั่งในบอร์ดบริหาร และได้กลายเป็นปัญหาสำคัญ เพราะกลับถูกโบรกเกอร์ไม่กี่รายจองกฐินกินยาว บริหารงานเอื้อประโยชน์ให้กับคนไม่กี่กลุ่ม และไม่เปิดโอกาสให้โบรกเกอร์หน้าใหม่รายอื่นแหยมเข้ามา เพราะทราบกันดีว่า ตลาดหลักทรัพย์เป็นแหล่งขุมทรัพย์มหาศาล

       “การแปรรูปตลาดหลักทรัพย์เป็นไปเพื่อให้พ้นอำนาจทางการเมือง รัฐบาลหรือกระทรวงการคลังไม่จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร ปล่อยให้เป็นเรื่องของเอกชน ขณะเดียวกันจะได้ปลดล็อกจากโบรกเกอร์ที่มีโควต้าส่งคนมานั่งในตำแหน่งบอร์ด เพื่อให้ตลาดหลักทรัพย์เป็นเอกชนโดยแท้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน สามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้”

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon