SET  ผนึกพันธมิตรสยบข่าวทุบดัชนี  เชื่อสถาบันลงทุนอยู่ยาว

87

ตลท.นำสภาวิศวกร, ส.อ.ท., แบงก์ชาติ และกลต. เรียกเชื่อมั่นตลาดทุนไทย ปรามข่าวแผ่นดินไหว ทำคนตื่นตระหนกทุบตลาดทุน เชื่อแค่กระทบระยะสั้น เชื่อนักลงทุนสถาบันไม่หนีหุ้นไทย ปัจจัยพื้นฐานยังแกร่ง ย้ำดัชนีไทยร่วงเป็นผลปัจจัยภายนอกตามญี่ปุ่น ไต้หวัน ด้านกลต. เชื่อผ่านพ้นวิกฤตระยะสั้น เตรียมมาตรการสร้างความเชื่อมันระบบทุนไทย รองรับความเสี่ยงรอบทิศระยะยาว 

 

นายอัสสเดช คงสิริ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า  เชื่อมั่นใว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุนในระยะสั้น ซึ่งนักลงทุนสถาบันจะมุ่นเน้นการลงทุนระยะยาวเป็นหลัก ดังนั้นเชื่อว่าเศรษฐกิจไทย และบริษัทจดทะเบียนของไทยยังคงแข็งแกร่ง มีพื้นฐานที่ดีสร้างการเติบโตได้ในระยะยาว ดังนั้นจึงต้องมีการสื่อสารข้อมูลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางปัจจัยรุมเร้าจากต่างประเทศ 

ทั้งนี้ สาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นร่วงลง จึงเป็นมาจากปัจจัยภายนอก อาทิ ภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่ส่งผลกระทบเช่นเดียวกันกับทั่วโลก ตามที่ได้เกิดขึ้นกับตลาดหลักทรัพย์ในญี่ปุ่น ที่เปิดตลาดมาด้วยการติดลบ 4% ไต้หวันติดลบ 2% โดยจากข่าวที่มีจากหลากลหายด้าน จึงต้องนำข้อมูลที่เป็นจริงและชัดเจนจากทั้งสภาวิศวกร, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.), ธนาคารแห่งประเทศไทย คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) รวมถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาพหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)มาให้ข้อมูลที่ชัดเจน เกี่ยวกับตลาดทุนไทย เพื่อป้องกันข่าวหลากหลายด้านจากโซเชียลมีเดีย ที่มีทั้งจริงและเท็จ ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนไทย 

นักลงทุนสสถาบันมองในระยะยาวมากว่า ดังนั้น บริษัทจดทะเบียนของไทยจึงยังคงแข็งแกร่ง เมื่อฟังข้อมูลจากสภาวิศวกรไทย ที่ยังคงให้ความมั่นใจในความปลอดภัย และภาคอุตสาหกรรม ก็ยังแข่งขันได้ในระยะยาว จึงต้องช่วยกันสื่อสารเป็นเพียงผลกระทบในระยะสั้นและระยะยาวยังไม่เปลี่ยนแปลง” 

 

งัดมาตรการระบบลงทุนแฟร์สู่รายย่อย 

 

ด้าน รศ.ดร.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ปัจจัยเหตุการณ์แผ่นดินไหวเป็นเหตุการณ์ระยะสั้น  ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกลต. ตลท. และกระทรวงการคลัง สร้างความเชื่อมั่น ให้ภาคธุรกิจและตลาดทุนไทยเกิดความยืดหยุ่นปรับตัว (Resilience) ให้ตลาดทุนไทย ในการรองรับความเสี่ยงต่อความผันผวนจากปัจจัยภายนอกทั่วโลก ทำให้เกิดแรงเทขาย จนส่งผลกระทบต่อราคา โดยการออกมาตรการต่างๆ ที่จะมีผลต่อการกระตุุ้นเม็ดเงินลงทุนใหม่ ในกองทุนThai ESG ที่จะมีผล ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้รวมถึง 

ทั้งนี้ จะต้องสร้างความเชื่อมั่นในระบบการซื้อขายตลาดทุนไทย  โดยมีมาตรการป้องกันปัญหาความไม่ยุติธรรมกับนักลงทุนรายย่อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว เพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น เป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้น ทำให้ต้องเร่งรับมือสร้าความเชื่อมั่นสื่อสาร เพื่อให้ผ่านสถานการณ์ไปได้ ก่อนที่จะมีการวางแผนชัดเจนทำให้ตลาดทุนไทยกลับมาฟื้นตัวในระยะยาว 

“ มีการเตรียมมาตรการ เพื่อกระตุ้นเม็ดเงินลงทุนใหม่ในหลากหลายด้าน อาทิ การย้ายเงินสู่กองทุน Thai ESG เพื่อรองรับระบบตลาดทุนที่มีเสถียภาพ รวมถึงการการแก้ไขปัญหาการลงทุนให้กับสิ่งที่รายย่อยมีความกังวลก่อนหน้าเกี่ยวกับระบบซื้อขายที่มีความแฟร์ หรือไม่แฟร์ ได้มีการออกมาตรการชัดเจนเพื่อเรียกความเชื่อมั่น แต่เมื่อเกิดแผ่นดินไหว จึงต้องช่วยกันสื่อสารให้สร้างความเชื่อมั่นให้ผ่านพ้นช่วงนี้ เพื่อให้ตลาดทุนไทยสู้กับปัจจัยเสี่ยงได้ดี มั่นใจได้ว่าหากไม่มีปัจจัยอื่นเพิ่มเติมจะเรียกความเชื่อมั่นได้ในระยะยาว”