เปิด 10 หุ้นร้อนQ2   เน้นราคาต่ำ-ปลอดภัย 

509

ทรีนีตี้แนะนำ 10 หุ้นเด่นลงทุนไตรมาส 2 คาด SET Index แกว่ง 1150-1190 จุด หุ้นไทยในเดือนเมษายนเผชิญความเสี่ยงลดลงระดับต่ำ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจโลกผันผวน เงินลงทุนย้ายจากเติบโตสูง และหุ้นเทค สู่หุ้นมั่นคง ปลอดภัย เสี่ยงต่ำ 

ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกเนื่องจากนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะมองถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และประเด็นเศรษฐกิจชะลอตัวคู่กับเงินเฟ้อ (Stagflation) ที่มีความเข้มข้นมากขึ้น รวมถึงประเด็นแผ่นดินไหวในไทยจะส่งผลกระทบเพียงด้าน อารมณ์ความรู้สึก (Sentiment) ในระยะสั้นเท่านั้น แม้ว่าแรงกดดันจากตลาดหุ้นโลกจะยังคงมีอยู่ แต่ตลาดหุ้นไทยมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นโลกที่ต่ำ ส่งผลให้ความเสี่ยงหุ้นราคาลง ( Downside risk) อยู่ในระดับที่จำกัด อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจาก มาตรการการคลังและนโยบายการเงินที่ให้การสนับสนุน

ทั้งนี้ จากการประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในเดือนเมษายน โดยคาดว่า SET Index จะอยู่ในโหมดทรงตัวที่มีความผันผวนต่ำ โดยมีกรอบการแกว่งตัวอยู่ที่ 1150-1190 จุด ขณะเดียวกันนโยบายภาษีตอบโต้ของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 รวมถึงนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศสำคัญ จะเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ

 

เปิด 7 หุ้นเด่น 

 

สำหรับหุ้นที่มีความโดเด่น น่าสนใจต่อการลงทุนในไตรมาส 2 ภาพรวมการลงทุนมีการโยกย้ายเงินออกจากหุ้นกลุ่มที่มีการเติบโตสูง (Growth) และ กลุ่มเทคโนโลยี (Technology) มาสู่หุ้นกลุ่มมูลค่าต่ำ ( Value) และปลอดภัย มั่นคง (Defensive) ได้แก่

– BCP

– TOP

– PTTGC

– GPSC

– CPF

– BDMS

– BH

– TCAP

– 3BBIF

– LHHOTEL

 

7 ประเด็นร้อนสะเท้อนหุ้นไทยรับเมษา

 

ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในเดือนเมษายนนี้มีปัจจัยสำคัญหลายอย่างที่นักลงทุนควรเฝ้าระวัง:

  1. ความชัดเจนของการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของสหรัฐฯ ในวันที่ 2 เมษายน และการตอบโต้จากประเทศที่ถูกเพิ่มภาษี
  2. แนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจโลก  ที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงสัญญาณ Stagflation

3.การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันที่ 17 เมษายน คาดว่าจะมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ย

4.การประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ในช่วงปลายเดือนซึ่งคาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม

5.การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของไทย ในวันที่ 30 เมษายน คาดว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00%

  1. การเข้ามาซื้อขายหุ้น GULFI  ในตลาด
  2. ความเป็นไปได้ของมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว ในประเทศไทย

 

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในเดือนเมษายนนี้ยังคงมีหลายปัจจัยที่จะมีผลต่อทิศทางการลงทุน นักลงทุนควรมีการวางกลยุทธ์และติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพื่อการนำเข้าลงทุนที่มีประสิทธิภาพ.