มิติหุ้น – ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 2,962 จุด (+7.87%) หลังจาก Trump ประกาศระงับขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเวลา 90 วัน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 4.2% นักลงทุนคาดหวังอุปสงค์จะกลับมาหลังจากสหรัฐฯเลื่อนการเก็บภาษีเป็นเวลา 90 วัน
เมื่อคืนที่ผ่านมาเต็มไปด้วยหลากหลายเหตุการณ์ ช่วงเย็นตามเวลาประเทศไทยจีนได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯในอัตรา 84% ให้มีผลในวันที่ 10 เม.ย. หลังจากนั้นฝั่ง EU ก็ได้ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯเช่นกัน ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปั่นป่วนค่อนข้างมากในช่วงกลางคืนตามเวลาประเทศไทย จนกระทั่งช่วงเวลาเที่ยงคืนของประเทศไทย Trump ได้ประกาศลง Truth Social ว่าจากการที่จีนไม่เคารพตลาดโลกจึงเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนเป็น 125% โดยจะมีผลทันทีในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ในทางกลับกันประเทศต่างๆราว 75 ประเทศได้พยามติดต่อเข้ามาเพื่อเจรจากับสหรัฐฯในการหาทางร่วมมือและประเทศเหล่านี้ไม่ได้ตอบโต้สหรัฐฯในรูปแบบใดๆ สหรัฐฯเองจึงจะหยุดการขึ้นภาษีชั่วคราวเป็นระยะเวลา 90 วัน ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวิ่งขึ้นมาอย่างร้อนแรง ระยะสั้นจะเป็นปัจจัยกลับมาหนุนตลาดหุ้นทั่วโลกเช้านี้ Nikkei +9.5% สำหรับหุ้น SET100 ที่ราคาปรับลงมาแรงนับตั้งแต่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีทั่วโลกได้แก่ AMATA WHA SJWD MINT CENTEL เรามองกลุ่มนิคมน่าสนใจสุดจากก่อนหน้าด้วยความกังวลย้ายฐานผลิต
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เรากังวลคือในช่วง 3 เดือนจากนี้ผู้ประกอบการทั่วโลกก็จะไม่เร่งร้อนลงทุนเพื่อรอดูผลภาษีทำให้ความเสี่ยงขาลงเศรษฐกิจและกำไรบริษัทจดทะเบียน และหากไปดูสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำพบว่ายังคงทรงตัวในด้านบนมิได้ปรับลงมาอย่างมีนัยยะสำคัญสะท้อนว่านักลงทุนยังคงมีความกังวลอยู่เช่นเดิม ดังนั้นการลงทุนอาจจะเป็นลักษณะสะสมบางส่วนจาก Valuation ที่ไม่แพงประกอบกับเก็งกำไรระยะสั้นๆในหุ้นที่ได้รับผลกระทบก่อนหน้า อาทิ ส่งออก (TU ITC) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) คืนนี้รอติดตามเงินเฟ้อสหรัฐฯ (CPI) ช่วงเวลา 19.30 ตามเวลาประเทศไทย Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.5%YoY พร้อมกับผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ 2.23 แสนราย วันนี้ประเมิน SET INDEX แกว่งบวก 1090 – 1140 ทั้งนี้ เชิงกลยุทธ์การลงทุนแนะสะสมได้บางส่วนเพราะสิ่งที่กังวลคือตลาดหุ้นไทยอาจจะเปิดกระโดดและทำให้เสียจังหวะแต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่แพงมาก (Valuation) ในส่วนของหุ้นที่แนะสะสมได้แก่ศูนย์การค้า (CPN) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB) นิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA) ส่งออก (ITC TU) โรงแรม (CENTEL MINT) ระยะสั้นอาจเลือกเก็งกำไรในกลุ่มน้ำมัน (PTTEP) และนิคมอุตสาหกรรม (AMATA WHA)
AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท)
ระยะสั้นได้แรงหนุนจาก Trump นอกจากนี้ยังมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการปี 25 ยังคงเห็นการเติบโตได้ดี แม้ว่าบริษัทจะตั้งเป้ายอดขายไว้เพียง 2,000 ไร่ ต่ำกว่าปี 24 ที่ทำได้ถึง 3,018 ไร่ เนื่องจากยังมี Backlog ที่รอรับรู้รายได้อีกกว่า 21,000 ล้านบาท ผู้บริหารตั้งเป้าโอนในส่วนของประเทศไทยที่มีกว่า 19,000 บล้านบาท ไม่ต่ำกว่า 50% ภายในปี 25 นี้ โดยยอดขายในช่วง 2M25 ทำได้แล้ว 230 ไร่
WHA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 5.30 บาท)
เป็นหุ้นที่รับผลกระทบหนักก่อนหน้าจาก Trump ส่วนภาพรวมในช่วง 1Q25 ในส่วนของธุรกิจที่ดินล่าสุดทาง WHA มีการให้ข้อมูลเพิ่มว่ายอดขายที่ดินจะไม่ต่ำกว่า 4Q24 ที่ทำได้ 773 ไร่ (ส่วน 1Q24 ทำได้ 630 ไร่) เนื่องจากนิคมใหม่ที่ ESSIE 5 มีการเซ็นสัญญา LOI แล้วประมาณ 400 ไร่ และมีการเจรจาอีกกว่า 600 ไร่ นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่คาดว่าจะเซ็นสัญญาเพิ่มเติมจากปี 24 อีกกว่า 400 ไร่ ส่วนธุรกิจให้เช่ารถ EV มีการเจรจากับลูกค้าอยู่กว่า 1,000 คัน จากเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 1,700 คัน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon