มิติหุ้น – กรุงเทพฯ 10 เมษายน 2568 – กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับธนาคารออมสิน เปิดตัว “หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว (Entrepreneurship & Green Business Design)” ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ให้ความรู้และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นสำหรับการออกแบบและพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมสีเขียวให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สตาร์ตอัป และธุรกิจเพื่อสังคม เพื่อให้รู้จักแนวทางการทำธุรกิจใหม่ตามทิศทางหรือแนวโน้มกระแสโลกที่ให้ความสนใจในปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม และเทรนด์ของนักลงทุนที่หันมาให้ความสนใจธุรกิจสีเขียวมากขึ้น โดยหลักสูตรประกอบด้วยบทเรียนออนไลน์ 7 วิชา และกรณีศึกษาจากองค์กรพันธมิตรและสตาร์ตอัปที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินงานด้านธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า หลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยหลังจากที่ประเทศไทยมีโอกาสเข้าร่วมประชุม COP26 จึงได้ประกาศเป้าหมายสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี พ.ศ. 2593 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2608 ด้วยเหตุนี้ การทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือธุรกิจสีเขียว (Green Business) จึงเป็นเทรนด์การทำธุรกิจที่อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังปรับสู่ New Business Model และ New Economy ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ทั่วโลกต่างมองว่าธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งสินค้าที่สร้างขึ้นด้วยวัสดุย่อยสลายง่าย สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ เพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง สินค้าด้านพลังงานสะอาด หนึ่งเทรนด์ที่มาแรงในวงการรักษ์โลก เช่น รถยนต์ไฟฟ้า Eco Car โซลาร์เซลล์ที่ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ สินค้า & บริการที่มิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น บรรจุภัณฑ์ไบโอ อาหารจากพืช พลาสติกชีวภาพจากพืช และร้าน Refill Store กลุ่มสินค้าและบริการที่ลดการมีบรรจุภัณฑ์จากพลาสติก โดยให้ลูกค้านำขวด กระป๋อง กล่อง หรือถุงที่มีอยู่แล้วมาเติมผลิตภัณฑ์จากร้านกลับไปได้ ล้วนคือ “ธุรกิจแห่งอนาคต” ที่มีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นในรูปแบบธุรกิจสีเขียว
ดร.กริชผกา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว อีกหนึ่งพันธกิจสำคัญที่ NIA และธนาคาร
ออมสินได้ร่วมมือกันมาตลอด 2 ปีที่ผ่านมา คือการอบรมและพัฒนาศักยภาพผู้ที่สนใจทำธุรกิจนวัตกรรมให้มีความรู้ สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และสร้างโอกาสเติบโตของธุรกิจจากเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในปีนี้ได้เปิด “หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว” เพื่อเพิ่มเติมองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบการสามารถประยุกต์ใช้แนวคิด Green Business ออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียวได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม ซึ่งประกอบด้วยบทเรียนออนไลน์ 7 วิชา และกรณีศึกษาจากองค์กรพันธมิตรและสตาร์ตอัปที่จะมาร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์ การดำเนินงานด้านธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว ซึ่งช่วยให้หลักสูตรมีความน่าสนใจและเกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น เพราะเชื่อว่าการเรียนรู้ด้าน Green Business & Innovation จะไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือทางรอด และเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขไปสู่การทำธุรกิจอย่างยั่งยืนในอนาคต เพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า และแข่งขันในระดับเวทีการค้าโลกได้อย่างยั่งยืน
“ธุรกิจสีเขียวคือกลยุทธ์สำคัญของการดำเนินธุรกิจในยุคนี้ นอกจากจะช่วยลดปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ ยังช่วยให้ธุรกิจมีความโดดเด่นท่ามกลางคู่แข่งได้เป็นอย่างดี เมื่อภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี หันมาออกแบบบริการและสินค้าด้วยจุดยืนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการสร้างความตระหนักรู้ในการใช้นวัตกรรมเป็นเครื่องมือช่วยลดผลกระทบจากวิกฤติสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ดังนั้น NIA ในบทบาทของผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม (Focal Conductor) พร้อมเชื่อมโยงการทำงานกับทุกภาคส่วนเพื่อเอื้อให้ระบบนวัตกรรมไทยเป็นระบบที่เปิดกว้าง ด้วยการสร้างโอกาสและสนับสนุนสตาร์ตอัป กิจการเพื่อสังคม และผู้ประกอบการไทยให้เป็นผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม โดยเฉพาะนวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อยกระดับและพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือบริการให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจที่สูงขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ที่ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เห็นได้จากยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (ปี 66–70) ที่มีเป้าหมายปรับโครงสร้างเศรษฐกิจไทยไปสู่ “เศรษฐกิจใหม่” ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีนวัตกรรมที่คำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อม เพื่อนำไปสู่การเติบโตที่ทั่วถึงและยั่งยืน ตลอดจนร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมของไทยให้เข้มแข็ง เพื่อผลักดันไทยก้าวสู่ “ชาตินวัตกรรม” ต่อไป”
ด้านนายศักดิ์สิทธิ์ สุนทรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อยและ SMEs Start up กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ธนาคารออมสินในบทบาท “ธนาคารเพื่อสังคม” ให้ความสำคัญกับเรื่องความยั่งยืน ด้วยการขับเคลื่อนองค์กรตามกรอบแนวคิด ESG ที่ใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม เพราะเล็งเห็นว่าการที่ประเทศไทยจะสามารถขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจ ซึ่งธุรกิจที่มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมควบคู่กันอย่างลงตัวก็คือ “ธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว (Green Business)”
“เพื่อให้ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืน ธนาคารออมสิน และ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
จึงร่วมกันสร้างหลักสูตร “การเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว” ขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา บุคคลทั่วไป จนถึงผู้ประกอบการที่สนใจจะปรับเปลี่ยนหรือพัฒนาธุรกิจให้มีความยั่งยืนและรักษ์โลก สามารถเข้ามารับการอบรมเพิ่มความรู้และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการออกแบบธุรกิจสีเขียวได้ เพราะกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่มาพร้อมกับความใส่ใจและมีความรับผิดชอบต่อการดูแลโลกของเรา ไปพร้อม ๆ กัน เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้มีการเติบโตเกื้อกูลแก่ทุกฝ่าย ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และนำมาซึ่งการยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน”
สำหรับ “หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการออกแบบธุรกิจนวัตกรรมสีเขียว” นี้ เป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง NIA และธนาคารออมสินตลอดปี 2566 – 2567 ที่ได้มีการผลิตสื่อการเรียนรู้ออนไลน์ เผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์ม NIA Academy MOOCs ในหัวข้อ “การเป็นผู้ประกอบการและการพัฒนาธุรกิจใหม่ Entrepreneurship and New Business Development” และ “Sustainable Development, ESG and Business Model Development Program การสร้างกรอบแนวคิดธุรกิจใหม่และการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากผู้สนใจทั้งนักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบการ โดยมีผู้ลงทะเบียนเข้ารับการอบรมออนไลน์ต่อปีไม่ต่ำกว่า 30,000 ราย เพื่อพัฒนาความรู้และเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตนเอง และนำไปพัฒนาธุรกิจที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างมีศักยภาพและยั่งยืน
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon