JMART เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ 5.50% ต่อปี ยันแผ่นดินไหวและสงครามการค้าไม่กระทบ ย้ำความมั่นใจเติบโตต่อเนื่อง

117

มิติหุ้น – JMART เสนอขายหุ้นกู้ 2 ปี 6 เดือน เคาะดอกเบี้ยคงที่ 5.50% ต่อปี เปิดจอง 17-18 และ 21 เม.ย. 68 ผ่าน 11 สถาบันการเงินชั้นนำ หนุนความแข็งแกร่งทางการเงิน ย้ำเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสงครามการค้าไม่กระทบธุรกิจ พร้อมเดินหน้าเติบโตต่อเนื่อง

บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ระยะยาว ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายในครั้งนี้ มีอายุ 2 ปี 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.50% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าการเสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เสนอขายระหว่างวันที่ 17-18 เมษายน และ 21 เมษายน พ.ศ. 2568

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2568 อันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทยังได้รับการปรับแนวโน้มจาก “ลบ” เป็น “คงที่” ที่อันดับเครดิต BBB+ จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด โดยทริสเรทติ้งคาดว่าภาระหนี้สินรวมของบริษัท ซึ่งวัดโดยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วจะลดลงจาก 3.8 เท่าในปี 2567 เป็น 3.4 เท่าในปี 2568 ซึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ว่าหนี้สินรวมของบริษัทจะลดลง นอกจากนี้สำหรับหุ้นกู้ JMART ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2568 ที่อันดับเครดิต BBB แนวโน้มคงที่ โดยกลุ่มบริษัทมีนโยบายให้ความสำคัญกับการชำระหนี้มากกว่าการขยายการลงทุนในปี 2568 สะท้อนถึงแนวทางที่รอบคอบในการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ท้าทาย

โดยหุ้นกู้ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ในการเสนอขายหุ้นกู้ ดังนี้ 1. เพื่อนำไปคืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน

  1. เพื่อชำระคืนดอกเบี้ยหุ้นกู้ 3. เพื่อกระแสเงินสดสำหรับเงินกู้ยืมให้กับบริษัทย่อยภายในกลุ่มบริษัท 4. เพื่อชำระคืนหุ้นกู้ 5. เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและบริษัทย่อย

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะเผชิญปัญหาแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา แต่ JMART รวมถึงธุรกิจในกลุ่มบริษัทไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด สามารถให้บริการได้ตามปกติ หรือแม้ว่าสหรัฐฯ จะประกาศเพิ่มอัตราภาษีนำเข้า กลุ่มบริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจาก ธุรกิจของกลุ่มบริษัทไม่ได้มีการส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของกลุ่ม คือ กลุ่มลูกค้าที่อยู่ในประเทศไทย

โดย JMART ย้ำความมั่นใจ ในปี 2568 กลุ่มบริษัทพร้อมจะเติบโตด้วยเทคโนโลยี หรือแพลตฟอร์มอันทรงพลัง ที่สามารถหาลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ให้รีเทิร์นผลตอบแทนที่สูง อีกทั้งยังบริหารความเสี่ยงได้ด้วย NPL ในระดับต่ำ ล่าสุด สินเชื่อ Samsung Finance+ ภายใต้การบริหารของบริษัท KB J Capital และสินเชื่อ SG Finance+ โดยการบริหารของ SGC ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งดีลเลอร์ และลูกค้าทั่วประเทศมียอดขายรวมกันมากกว่า 1.57 ล้านเครื่องในปี 2567 ที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจศูนย์การค้าชุมชนภายใต้การบริหารของ บริษัท เจเอเอส แอสเซ็ท จำกัด (มหาชน) หรือ (“J”) กลุ่มบริษัทมั่นใจในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ที่สามารถตอบโจทย์ชุมชนได้ต่อเนื่อง และเป็นแหล่งรับรู้รายได้ที่ยั่งยืน โดยในปีที่ผ่านมาเปิดศูนย์การค้าชุมชนเพิ่มได้อีก 2 ศูนย์การค้า คือ โครงการแจส กรีน วิลเลจ ประเวศ และโครงการ แจส กรีน วิลเลจ รามคำแหง ซึ่งคาดว่าจะสร้างการรับรู้รายได้เต็มปีได้ภายในปี 2568 นี้

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon