CREDIT กำไรQ1สุดปังโต100% ลุยผุดโปรเจกต์ “SMEกล้าสู้”

60

มิติหุ้น – ธนาคารไทยเครดิต (CREDIT) ประกาศผลกำไรสุทธิประจำไตรมาสแรกของปี 2568 อยู่ที่ 903.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 100.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ที่ร้อยละ 42.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการบริหารจัดการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังของธนาคารการออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่องและการเพิ่มจำนวนพนักงานเก็บเงินและเร่งรัดหนี้สินอย่างต่อเนื่องส่งผลให้คุณภาพของสินทรัพย์ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม NPL Coverage Ratio ยังอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 150.7 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตสอดคล้องกับกลยุทธ์การดำเนินงานที่ยังมุ่งเน้นความระมัดระวัง ถึงแม้ว่าประเทศไทยเผชิญกับนโยบายการปรับเพิ่มภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา และเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงปลายไตรมาส 1 ปี 2568 ธนาคารยังสามารถรักษาการเติบโตของกำไรได้ โดยได้รับแรงสนับสนุนจากการขยายตัวของสินเชื่ออย่างต่อเนื่องและการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ ยอดเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ 165,889.6 ล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.7 จากปีก่อน

นอกจากนี้ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ตามการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ ในขณะเดียวกันธนาคารยังสามารถควบคุมคุณภาพของสินทรัพย์จากการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยคงอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (Gross NPLsratio) ที่ร้อยละ 4.4 ขณะที่อัตราส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin: NIM) ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ร้อยละ 7.9 สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของธนาคาร

นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต  จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT เปิดเผยว่า “แม้จะอยู่ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจ ธนาคารไทยเครดิตยังคงดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นความรอบคอบและมีวินัยทางการเงิน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารคุณภาพของสินเชื่ออย่างเข้มงวด พร้อมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในสภาพแวดล้อมแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารสามารถรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”

นอกจากนี้ ในปี 2568 ธนาคารไทยเครดิตได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์สินเชื่อใหม่ภายใต้ชื่อ “SMEกล้าสู้”โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการไมโครเอสเอ็มอีให้สามารถก้าวข้ามอุปสรรคและความท้าทายทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจและมีความมั่นคงสอดคล้องกับจุดยืนของธนาคารที่พร้อมยืนหยัดเคียงข้างผู้ประกอบการในทุกช่วงเวลา (“STANDBY เคียงข้าง SME ทุกช่วงเวลา”)

สินเชื่อ “SMEกล้าสู้” ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารนำโมเดลการพิจารณาสินเชื่อแบบอิงความเสี่ยง(Risk-based Pricing) มาใช้กับกลุ่มลูกค้าไมโครเอสเอ็มอีที่มีความยืดหยุ่นสามารถคำนวณอัตราดอกเบี้ยตามระดับความเสี่ยงของผู้ประกอบการแต่ละราย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าได้รับเงื่อนไขสินเชื่อที่เหมาะสมยิ่งขึ้นในขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงเดินหน้าผลักดัน “สินเชื่อเถ้าแก่ใหญ่”อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถต่อยอดกิจการเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวรองรับความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจ

กลยุทธ์สำคัญที่ธนาคารใช้ในการขับเคลื่อนเป้าหมายการเติบโตในปี 2568 ประกอบด้วย

  1. การขยายสินเชื่อในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก

2.การพัฒนาและปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  1. การสร้างและพัฒนาธุรกิจใหม่ เพื่อเพิ่มแหล่งรายได้ในอนาคตกลยุทธ์ทั้งสามด้านนี้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานระยะยาวของธนาคาร ซึ่งมุ่งสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนและเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว

“ธนาคารมุ่งมั่นยกระดับการให้บริการทางการเงินอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการวางรากฐานที่มั่นคงผ่านการนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานเพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการรับมือกับสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังถือเป็นการยกระดับระบบและแพลตฟอร์มของธนาคารให้สมบูรณ์แบบ และตอบรับกับกระแสดิจิทัลในภาคอุตสาหกรรมการเงินทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ธนาคารยังมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่องรวมถึงการขยายจุดให้บริการลูกค้าผ่านการเปิด Business Centerในจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าให้มีความสะดวกครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น” นายรอยย์ กล่าวเพิ่มเติม

 

 

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon