ฟันผุกระทบสุขภาพทั้งระบบ! BDMS Wellness Clinic แนะเทคโนโลยี AIRFLOW GBT ทางเลือกใหม่ในการดูแลช่องปาก

21

มิติหุ้น – กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 23 เมษายน 2568 – สุขภาพช่องปากที่ดีคือพื้นฐานของสุขภาพกายที่แข็งแรง!  บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) ศูนย์สุขภาพเชิงป้องกันในเครือบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ชวนดูแลสุขภาพช่องปาก ชี้คนไทยกว่า 53% มีปัญหาฟันผุ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพกายองค์รวมมากกว่าที่คิด เผยเทคโนโลยีใหม่ “AIRFLOW GBT” ช่วยดูแลสุขภาพช่องปาก ส่งเสริมสุขภาพองค์รวมให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน

รู้จัก “คราบพลัค” (Biofilm) ศัตรูเงียบของช่องปากที่คุณอาจไม่เคยรู้ตัว

“คราบพลัค” หรือ “ไบโอฟิล์ม” (Biofilm) คือคราบแบคทีเรียที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในช่องปากหลังการรับประทานอาหาร โดยจะสะสมอยู่บริเวณผิวฟันและขอบเหงือก หากไม่ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี คราบเหล่านี้จะกลายเป็นต้นตอสำคัญของฟันผุ เหงือกอักเสบ และโรคในช่องปากอีกหลากหลายชนิด

แม้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่เราสามารถรับรู้การมีอยู่ของคราบพลัคได้ผ่านสัมผัส หากใช้ลิ้นแตะบริเวณผิวฟันแล้วรู้สึกสาก แสดงว่าคราบพลัคยังคงสะสมอยู่ แต่หากรู้สึกลื่นและเรียบเนียนหลังแปรงฟัน แสดงว่าการทำความสะอาดได้ผล และสามารถขจัดคราบพลัคออกไปได้ในระดับหนึ่ง ดังนั้น การแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกวันตามที่ทันตแพทย์แนะนำจะสามารถช่วยขจัดคราบพลัคในระดับเบื้องต้นได้หากมีวิธีการแปรงฟันอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ในช่องปากของเราทุกคน ยังมีหลายจุดในช่องปากที่เข้าถึงได้ยาก เช่น บริเวณฟันซ้อนเก ฟันด้านใน เหล็กจัดฟัน หรือฟันปลอม ซึ่งอาจกลายเป็นแหล่งสะสมของคราบพลัคโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม

จาก “ฟัน” สู่ “โรคเรื้อรัง!” สุขภาพช่องปากเกี่ยวอะไรกับโรค NCDs?

ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ เกียรติธนากร ผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เผยว่า สุขภาพช่องปากเป็นมากกว่าการมีฟันที่สะอาด หรือเรื่องของบุคลิกภาพภายนอกเพียงเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว ปัญหาช่องปาก เช่น ฟันผุ โรคเหงือก หรือคราบพลัคสะสม ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยทางสุขภาพที่ลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (Non-Communicable Diseases: NCDs) ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด และ โรคหลอดเลือดสมอง

โดยในกรณีของโรคเบาหวาน มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ผู้ป่วยเบาหวานมีแนวโน้มสูงที่จะเกิดโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์ (โรคเหงือกขั้นรุนแรง) มากกว่าคนทั่วไป สาเหตุหลักคือระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้การต่อต้านเชื้อแบคทีเรียในช่องปากลดลง เมื่อแบคทีเรียสะสมมากขึ้นโดยเฉพาะตามแนวเหงือก ก็จะก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง นำไปสู่โรคเหงือกในที่สุด ในทางกลับกัน หากผู้ป่วยเบาหวานมีภาวะเหงือกอักเสบเรื้อรัง ก็จะส่งผลให้ร่างกายมีการหลั่งสารอักเสบ (inflammatory mediators) เพิ่มขึ้น ซึ่งสารเหล่านี้สามารถรบกวนการทำงานของอินซูลิน ทำให้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ยากขึ้นกว่าเดิม กลายเป็น “วงจรอันตราย” ที่ทั้งสองโรคส่งผลกระทบซึ่งกันและกัน

ไม่เพียงเท่านั้น งานวิจัยยังพบว่าคราบพลัคที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดออกอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้แบคทีเรียในช่องปากเข้าสู่กระแสเลือด และส่งผลต่อหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะหลอดเลือดแข็งตัว (Atherosclerosis) และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ

นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยจำนวนมากที่กำลังศึกษาความเชื่อมโยงระหว่าง “สุขภาพช่องปาก” กับ “สุขภาพสมองในระยะยาว” โดยเฉพาะกับโรคเกี่ยวกับการเสื่อมของระบบประสาท เช่น โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) พบว่าแบคทีเรียบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับโรคปริทันต์ เช่น Porphyromonas gingivalis อาจมีบทบาทในการกระตุ้นการอักเสบในสมอง ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับโรคอัลไซเมอร์

“การดูแลช่องปากอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยให้เรามีรอยยิ้มที่สดใสและมั่นใจ แต่ยังเป็นการป้องกันโรคร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย” ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติม

AIRFLOW GBT”: การดูแลช่องปากที่ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

ปฏิเสธไม่ได้ว่าความกลัวและความกังวลในการพบทันตแพทย์ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หลายคนละเลยการดูแลสุขภาพช่องปากอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขูดหินปูนด้วยวิธีการแบบเดิม ที่มักมาพร้อมกับความรู้สึกเจ็บ เสียงเครื่องมือที่ดัง และแรงสั่นสะเทือนจากการทำหัตถการที่ทำให้รู้สึกไม่สบายช่องปาก ปัจจัยเหล่านี้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยเลือกที่จะเลื่อนการทำความสะอาดฟันออกไปจากทุก 6 เดือน เป็น 1 ปี หรือบางคนอาจเว้นไปนานหลายปี จนกลายเป็นว่าการพบทันตแพทย์ไม่ใช่เพื่อการป้องกันอีกต่อไป แต่เป็นการรักษาหลังจากที่ปัญหาเกิดขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในยุคที่เทคโนโลยีการดูแลสุขภาพก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว วงการทันตกรรมเองก็ได้พัฒนาเครื่องมือและวิธีการใหม่ที่ตอบโจทย์คนไข้ยุคใหม่มากขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมที่โดดเด่นคือ “AIRFLOW GBT Concept” หรือ AIRFLOW Guided Biofilm Therapy ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการทำความสะอาดฟันสมัยใหม่ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อมอบประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพช่องปาก พร้อมทั้งลดความรู้สึกไม่สบายระหว่างการทำหัตถการ ช่วยให้การทำความสะอาดฟันเป็นเรื่องง่าย อ่อนโยน และเข้าถึงได้มากขึ้นสำหรับทุกคน

“ที่ BDMS Wellness Clinic เราได้ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ซึ่งจะนำไปสู่การดูแลสุขภาพโดยรวมในด้านอื่น ๆ ต่อไป ด้วยเหตุนี้ เราจึงตั้งใจที่จะมอบบริการการทำความสะอาดฟันด้วยเทคโนโลยี AIRFLOW Guided Biofilm Therapy ให้กับผู้รับบริการ เพื่อมอบการดูแลช่องปากที่มีประสิทธิภาพและการรักษาที่อ่อนโยน ช่วยลดการบาดเจ็บจากการทำฟันในรูปแบบเดิม ๆ โดยเรามุ่งมั่นให้ผู้รับบริการมีแนวโน้มกลับมาพบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กช่องปากทุก ๆ      6 เดือน เพื่อส่งเสริมสุขภาพช่องปากและสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอย่างยั่งยืน” ทันตแพทย์หญิงวลัยลักษณ์ กล่าวเพิ่มเติม

เทคโนโลยี AIRFLOW GBT ไม่เพียงแค่ช่วยทำความสะอาดฟันได้อย่างล้ำลึก แต่ยังโดดเด่นในด้านความอ่อนโยนต่อเหงือกและเนื้อเยื่อภายในช่องปาก ทำให้การดูแลสุขภาพช่องปากมีความแม่นยำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการทำความสะอาดฟันด้วย AIRFLOW GBT นั้นประกอบด้วย 8 ขั้นตอนสำคัญ ซึ่งออกแบบมาเพื่อกำจัดคราบพลัค (Biofilm) อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสะสมของแบคทีเรียตัวการก่อโรคเหงือก ฟันผุ และกลิ่นปาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพฟันในระยะยาวได้อย่างยั่งยืน ดังนี้

  1. ตรวจสภาพเหงือก เพื่อประเมินโรคในช่องปากและวางแผนการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม
  2. ย้อมสีคราบพลัค เพื่อระบุตำแหน่งของคราบพลัคหรือไบโอฟิล์มที่สะสมอยู่ในช่องปาก ซึ่งมักเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพฟันโดยไม่รู้ตัว การย้อมสีช่วยให้ทันตแพทย์สามารถมองเห็นคราบพลัคได้อย่างชัดเจน และขจัดออกได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  3. ทันตแพทย์ช่วยให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการแปรงฟันที่ถูกต้อง เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพช่องปากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  4. การพ่นแอร์โฟล์วพลัสแบบใหม่ มอบประสบการณ์ที่อ่อนโยนและสบายคล้ายการพ่นด้วยน้ำเปล่า แต่ให้ประสิทธิภาพสูงในการขจัดคราบพลัคอย่างหมดจด ทั้งบริเวณผิวฟัน ขอบเหงือก และใต้เหงือก ด้วยการใช้ผงน้ำตาล “อิริธริทอล” ที่มีอนุภาคเล็กที่สุดเพียง 14 ไมครอน จึงทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุมโดยไม่ทำลายเนื้อฟันและวัสดุทางทันตกรรมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นครอบฟัน วีเนียร์ รากเทียม หรืออุปกรณ์จัดฟันใส อีกทั้งยังสามารถขจัดคราบสีจากชา กาแฟ หรือบุหรี่ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. การพ่นแอร์โฟล์วพลัสบริเวณใต้เหงือก เฉพาะในกรณีที่ตรวจพบว่ามีปัญหาสุขภาพเหงือกเท่านั้น
  6. การขูดหินปูนด้วยเทคโนโลยี PS Piezon และระบบน้ำอุ่นด้วยหัวขูดพิเศษ ช่วยลดความเจ็บปวดและการสั่นสะเทือน อ่อนโยนกับผู้ที่มีรากเทียม ครอบฟัน หรือวีเนียร์
  7. ตรวจเช็คความสะอาดหลังทำ โดยทันตแพทย์
  8. ทำนัดหมายครั้งต่อไป เพื่อการดูแลสุขภาพช่องปากที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

การขูดหินปูนและขจัดคราบด้วย AIRFLOW GBT ราคา 4,000 – 4,500 บาท (ทั้งนี้ราคาขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของ ทันตแพทย์)  ผู้ที่สนใจ สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ BDMS Wellness Clinic และการทำความสะอาดฟันด้วยเทคโนโลยี AIRFLOW GBT ได้ที่  https://www.bdmswellness.com/

ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง

Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon