มิติหุ้น – เรียกได้ว่าตอนนี้ทุกสายตาคงจับจ้องมาที่ “วังบางขุนพรหม” กับการเตรียมสรรหา “ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 22” เพื่อเข้ามาทำงานรับช่วงต่อจาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย คนที่ 21 ที่จะครบวาระการทำงาน 5 ปี หลังจากที่ดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563
เรียกความเชื่อมั่น
สำหรับความหวังของผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่นั้น คงเป็นความรู้ความสามารถที่จะเข้ามาดูแลด้านการเงิน และนโยบายต่างๆ ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และการค้าโลก จากนโยบายภาษีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่มีความไม่แน่นอน ทำเอาตลาดทุน ตลาดเงินปั่นป่วน ไร้ทิศทางยากที่จะเดาทางได้ ดังนั้นเรื่องการสร้างความเชื่อมั่น ของผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ จึงเป็นเรื่องสำคัญ
โดย อ.นิพนธ์ สุวรรณประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า บอกกับ “มิติหุ้น” ว่า ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จะต้องไม่ใช่ผู้ที่มาจากฝั่งการเมือง เพราะหากเป็นคนการเมืองก็ไม่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นของตลาดทุนไทยจากชาวต่างชาติ ที่ไม่มั่นใจและไว้ใจประเทศไทยมากสักเท่าไร โดยดูได้จากแรงขายในช่วงที่ผ่านมา
พร้อมสรรหาผู้ว่าฯ
สำหรับกำหนดการเปิดรับสมัครคัดเลือกผู้ว่าแบงก์ชาตินั้น คณะกรรมการสรรหาจะมีการประชุมในครั้งต่อไป ในวันที่ 7 พ.ค.นี้ โดยกรรมการจะได้มีการร่วมกันตรวจร่างประกาศรับสมัครคัดเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าแบงก์ชาติก่อนจะมีการประกาศ และประชาสัมพันธ์ ส่วนระยะเวลาการเปิดรับสมัครจะนานแค่ไหนนั้น ตามข้อกำหนดตามกฎหมายกำหนดระยะเวลาสั้นสุดให้เปิดรับสมัครไม่น้อยกว่า 5 วัน แต่กรรมการได้หารือกันแล้วว่าจะเปิดรับสมัครในระยะเวลาที่ยาวหน่อย แต่คงไม่ได้เปิดรับสมัครแค่ 5 วัน เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถมารับสมัครเพื่อเข้าสู่การคัดเลือกในครั้งนี้
5 แคนดิเดตผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่
- ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท SCB Abacus (อายุ 51 ปี ) เคยดำรงตำแหน่งรองผู้จัดการใหญ่ และ Chief Economist ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) บริหารสายงาน Economic Intelligence Center และดูแลสายงานวิเคราะห์ความเสี่ยง (risk analytics)
- ดร.ปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทยธนชาต (อายุ 55 ปี) ผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ ที่มีบทบาทและประสบการณ์ในการบริหารงานหลายด้านทั้งธุรกิจการเงิน พลังงาน รวมทั้งช่วยการบริหารงานในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ในอดีตเคยรงตำแหน่งสำคัญมีบทบาทในการบริหารความเสี่ยง กำกับดูแล และพัฒนาระบบการเงินในหลายองค์กรชั้นนำ
- ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (อายุ 57 ปี) เคยดำรงตำแหน่งสำคัญทั้งในกาศรัฐและเอกชน เช่น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักบ้านานายกรัฐมนตรี และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ด้วยอีกตำแหน่ง
- ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ (อายุ 54 ปี) มีประสบการณ์บริหารองค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่สำคัญหลายแห่ง เช่น กรรมการบรรษัทภิบาลและความยั่งยืน บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กรรมการบริหาร ในองค์กรระหว่างประเทศอย่าง Tax Inspectors Without Borders ภายใต้ OECD & UNDP
- ดร.สันติธาร เสถียรไทย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และที่ปรึกษาด้าน Future Economy ของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) (อายุ 43ปี) เป็นนักเศรษฐศาสตร์ และนักคิดรุ่นใหม่ที่มีคุณสมบัติที่สามารถสมัครเป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ นอกจากเป็น กนง.และที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจอนาคตของ TDRI และที่ปรึกษากรรมการวิสามัญของสภาฯด้านนโยบายปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ทั้งนี้การสรรหา “ผู้ว่าแบงก์ชาติ” คนใหม่จะเริ่มขึ้นตั้งแต่ก่อนคนเก่าหมดวาระนั้น ถือเป็นธรรมเนียมที่ผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ต้องมีระยะเวลาในการเตรียมตัวและเรียนรู้การทำงานจากผู้ว่าแบงก์ชาติคนเดิมนั่นเอง
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon