มิติหุ้น – DELTA โดยบล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า Q1/68 รายงานกำไรสุทธิ 5,488 ลบ. เพิ่มขึ้น +27% y-y และ +155% q-q สูงกว่าทั้งเรา และตลาดฯ คาด เนื่องจากสัดส่วนการขาย, ค่าใช้จ่ายที่ลดลง โดยยอดขายรวมอยู่ที่ 1,245 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น +18% y-y และ +4% q-q ซึ่งเทียบเป็นเงินบาทจะเท่ากับ 42,736 ลบ. เติบโต +13% y-y และ +2% q-q
กลุ่ม Power electronic (สัดส่วน 58% ของยอดขายรวม) ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับงาน Data center server และ AI ยอดขายเติบโต +31%y-y+11% q-q
กลุ่ม Mobility (สัดส่วน 23%) ยอดขายหด -6% y-y และ -5% q-q ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม EV ซึ่งยังกดดันจากยอดขาย EV ที่ไม่ดีนัก
กลุ่ม Infrastructure (สัดส่วน 16%) ยอดขายเติบโต +18% y-y แต่หด -5% q-q ขับเคลื่อนด้วยกลุ่มลูกค้าโทรคมนาคมและพลังงาน
กลุ่ม Automation (สัดส่วน 3%) ยอดขายขยายตัว +22% y-y +3% q-q เป็นกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม
อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น โดยเพิ่มจาก 21% ใน Q1/67 และ 22.5% ใน 4Q24 เป็น 25.6% อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากสัดส่วนยอดขายกลุ่มอัตรากำไรสูง โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้น อีกทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Data center เติบโตมากด้วย รวมถึงได้ผลบวกจากเงินบาทอ่อนค่าลง
ค่าใช้จ่ายขายบริหาร และพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้น +23% y-y จากค่าสิทธิการจ่ายที่จ่ายให้กับบริษัทแม่ในไต้หวันจากสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI ทำให้รายการดังกล่าวเพิ่มจาก 1,799 ลบ. เป็น 1,860 ลบ. และค่าใช้จ่ายด้านวิจัยและพัฒนาเพิ่มขึ้นตามเป้าหมายที่ 3% ของยอดขาย แต่หด -26% q-q เนื่องจากไตรมาสก่อนหน้ามีค่าใช้จ่ายด้านกฎหมายสูงถึง 1,008 ลบ. แต่หากไตรมาสนี้ลดลง และไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายย้อนกลับอย่างไตรมาสที่ผ่านมา อีกทั้งไตรมาสนี้ยอดขายที่เป็นโครงการของ DELTA เองโดยเฉพาะกลุ่ม AI เพิ่มขึ้นทำให้ค่าสิทธิจ่ายลดลงจาก 3,473 ลบ. ใน Q4/67
อัตราภาษีจ่าย เพิ่มขึ้นจากผลเกณฑ์ Global Minimum Tax (GMT) แต่ยังต่ำกว่า 15% เนื่องจากมีนำค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับเงินเดือน และค่าตัดจำหน่ายสินทรัพย์ที่มีตัวตนมาหักลดหย่อนได้
คงประมาณการไว้ดังเดิม : เรายังคงประมาณการผลการดำเนินงานปี 68 ไว้ดังเดิม สินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Data center, Cloud และ AI ยังมีการเติบโตได้ตามการใช้ที่มากขึ้นยังเป็นปัจจัยต่อการเติบโตของยอดขาย
ขณะที่แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นนั้นคาดจะเพิ่มขึ้น y-y ตามยอดขายกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้น โดยคาดยอดขาย 5,006 ล้านเหรียญ +9% y-y อัตรากำไรขั้นต้นเป็น 26% และสัดส่วนค่าใช้จ่ายขายและบริหารและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ 15% ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 17,839 ลบ. -6% y-y คงราคาเหมาะสม 71.50 บาท อิง P/E 50.0x ยังคงแนะนำ “ขาย”
“ แม้การดำเนินงานที่ออกมาจะดีกว่าตลาดฯ คาด ประกอบกับสถานการณ์การขึ้นภาษีจากสหรัฐดูผ่อนคลายลงทำให้เราคาดว่าหุ้นกลุ่มนี้กลับมาน่าสนใจอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ยังต้องติดตามและอาจกดดันต่อการดำเนินงานคือค่าใช้จ่ายที่จะเร่งตัวขึ้นหลังสัดส่วนยอดขายกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้น รวมถึงสถานการณ์การขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอนยังเป็นปัจจัยกดดันต่อการดำเนินงานในอนาคตจากสัดส่วนยอดส่งออกไปสหรัฐมี 30-35% ของยอดขาย ซึ่งด้วย Valuation ที่สูง P/E25E 57.3 เท่า สวนทางกับกำไรสุทธิยังเป็นภาพหดตัว ทำให้เรายังคงแนะนำ “ขาย”
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon