TISCO Economic Strategy ระบุว่า ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อตราสารหนี้ไทยสุทธิ 6.7 หมื่นลบ. หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันใน 5 ปีก่อนหน้า จะพบว่าอยู่ในระดับสูงเป็นรองเพียงปี 2565 เท่านั้น และหากนับเฉพาะเดือนเม.ย. หรือ ณ 28 เม.ย. 68 จะพบยอดซื้อสุทธิมากกว่า 5.4 หมื่นลบ.
สาเหตุที่นักลงทุนต่างชาติเร่งตัวซื้อตราสารหนี้ไทยในเดือนเม.ย.68 มาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ 1.ค่าสหสัมพันธ์ของเงินบาทกับทองคำในช่วงเวลา 30 วัน พุ่งสูงขึ้นมาสูงถึงประมาณ 0.75 สูงสุดในรอบกว่า 20 ปี จึงได้อานิสงส์บวกจากการปรับขึ้นของราคาทองคำและกระแสหาที่พักเงินชั่วคราวออกจากสกุลเงินดอลลาร์ที่มีความผันผวนสูง
ค่าสหสัมพันธ์เงินบาท-ทองคำ สูงสุดในรอบกว่า 20 ปี
- แนวโน้มโยบายการเงินไทยผ่อนคลายมาก จากความเสี่ยงทางด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยคาดGDPไทยจะชะลอตัวลงเหลือเพียง 2.1% ในปี 68 และมีความเสี่ยงอาจขยายตัวต่ำได้เพียง 1.5% เท่านั้นหากอัตราภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐต่อสินค้าไทยไม่ถูกปรับลดลงจาก 36% ตามที่ทรัมป์เคยแถลง ดังนั้นมองว่ากนง.มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงเหลือ 1.75% ในการประชุมวันที่ 30 เม.ย.นี้ และมีโอกาสปรับตัวลดลงเหลือ 1.50% ในช่วงการประชุมเดือนส.ค.
ดอกเบี้ยเสี่ยงหั่นลงเหลือ 1.50%
จากปัจจัยพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และแนวโน้มดอกเบี้ย ทำให้เรามอง Bond yield พันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี มีโอกาสปรับลดลงสู่ระดับราว 1.5-1.6% ขณะที่ความเสี่ยงด้านสูงที่ต้องเฝ้าติดตามคือประเด็นด้านวินัยการคลัง ที่คาดว่ารัฐบาลต้องยกระดับเพดานหนี้สาธารณะขึ้นสูงกว่า 70% ของ GDP ในไม่ช้า ว่าจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นนักลงทุนมากเพียงใด
ติดตามช่องทางมิติหุ้นเพื่อรับข่าวสารตลาดทุนได้ตามลิงค์ด้านล่าง
Web : https://www.mitihoon.com/
Facebook : https://www.facebook.com/mitihoon
Youtube : https://www.youtube.com/@mitihoonofficial7770
Tiktok : www.tiktok.com/@mitihoon
