5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคบ่าย
อันดับที่ 1 PPS ตั้งเป้าทั้งปีรายได้โต 10% สนประมูลเมกะโปรเจ็กต์และพื้นที่ EEC
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส หรือ PPS โดยนายพงศ์ธร ธาราไชย ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/62 จะลดลง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันกับปีก่อน เป็นผลมาจากงานก่อสร้างของ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) มีความล่าช้า ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้โต 10% หรือมีไม่ต่ำกว่า 425 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 387.09 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 428 ล้านบาท โดยจะรับรู้ภายในปีนี้ราว 268 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทะยอยรับรู้ในปีถัดไป นอกจากนี้ มีงานที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญา มูลค่ารวมมากกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งเป็นกลุ่มงานประเภทโรงแรมและงานโมเดิร์นเทรด ขณะเดียวกัน ยังเดินหน้าเข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของภาครัฐและเอกชน อีกทั้งเตรียมความพร้อมเพื่อเข้าร่วมประมูลงานในโครงการเมกะโปรเจกต์และงานกลุ่ม EEC คาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดประมูลตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/62 เป็นต้นไป
อันดับที่ 2 IVL แจ้ง! IVOG โรงงานผลิต EO, PEO และ Glycols กำลังผลิต 550,000 ตัน/ปี ในเท็กซัส กลับมาเดินเครื่องผลิตแล้วเมื่อวันที่ 20 มี.ค.62 หลังจากหยุดผลิตไปเมื่อ 24 ม.ค.62 เพื่อเปลี่ยนสารเร่งปฏิกิริยา (catalyst)
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส หรือ IVL โดยนายโซวิค รอย เชาว์ดูรี่ เลขานุการบริษัท เผยว่า ตามที่บริษัท Indorama Venture Oxcide & Glycols LLC หรือ IVOG ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ตั้งอยู่ในมลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานผลิต EO, PEO และ Glycols กำลังผลิต 550,000 ตัน/ปี ได้กลับมาเดินเครื่องผลิตแล้วเมื่อวันที่ 20 มี.ค.62 หลังจากหยุดผลิตไปเมื่อ 24 ม.ค.62 เพื่อเปลี่ยนสารเร่งปฏิกิริยา (catalyst) ด้านนายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท IVL เผยก่อนหน้านี้ว่า บริษัทคาดรายได้ปี 2562 เติบโต 35% แตะระดับ 1.4 หมื่นล้านเหรียญฯ จากปี 61 ที่มีรายได้รวม 1.07 หมื่นล้านเหรียญฯ และคาดมีกำไรหลักก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (Core Ebitda) ในปี 62 ไว้ที่ 1,750 ล้านเหรียญฯ ซึ่งเป็นผลจากคาดว่าปริมาณการผลิตในปีนี้จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 13 ล้านตัน จากปี 61 ที่ 10.4 ล้านตัน
อันดับที่ 3 TNR ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 20% รุกเพิ่มพอร์ตยอดขาย ONETOUCH – PLAYBOY ดันอัตรากำไรขั้นต้นแตะ 29%
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่น โดยนายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 เติบโต 20% จากปีก่อนที่ 1,460 ล้านบาท และตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 29% สูงกว่าปีก่อนที่ 22.72%โดยวางกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มธุรกิจผลิตถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นภายใต้แบรนด์ของบริษัท ทั้ง ONETOUCH และ PLAYBOY เป็น 20% จากปีก่อนอยู่ที่ 10% ตามแนวโน้มตลาดถุงยางอนามัยในประเทศไทยคาดว่าจะมีปริมาณการใช้ใกล้เคียงกับปี 61 ที่ 70.1 ล้านชิ้น
อันดับที่ 4 VGI จับมือ AnyMind Group ตั้งบริษัทร่วมทุน “วีจีไอ เอนี่มายด์ เทคโนโลยี” ทำธุรกิจพัฒนาระบบโปรแกรมเมติกสำหรับสื่อโฆษณานอกบ้าน
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. วีจีไอ โกลบอล มีเดีย หรือ VGI โดย นายเนลสัน เหลียง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เผยว่า VGI จับมือ AnyMind Group ประกาศจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายใต้ชื่อ VGI AnyMind Technology Co.,Ltd. ในการสร้างมูลค่าให้กับสื่อโฆษณา และยังเป็นผู้นำธุรกิจให้บริการด้านการตลาดเชิงอิทธิพล (Influencer Marketing) โดยการร่วมธุรกิจนี้นับเป็นการผสานพลังครั้งสำคัญที่รวมสื่อนอกบ้านของ VGI ร่วมกับฐานข้อมูลจาก Rabbit รวมถึงเทคโนโลยี AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลของ AnyMind Group เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างมิติใหม่ในนำเสนอสินค้าที่มีการผสมผสานของข้อมูลให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
อันดับที่ 5 ASEFA ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 15% ตุน Backlog 2,000 ลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.อาซีฟา หรือ ASEFA โดยนายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 15% เนื่องจากบริษัทได้รับงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งงานโครงสร้างพื้นฐาน โครงการลงทุนในพื้นที่ EEC งานอินเตอร์เน็ตอ๊อฟติง และพลังงานทดแทน ประกอบกับบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 2,001 ล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทได้เตรียมงบลงทุนไว้ประมาณ 50 ล้านบาท โดยบริษัทจะนำไปใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักร ระบบเทคโนโลยีต่างๆเพื่อให้ทัสมัยมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการทำการตลาดต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ บริษัทยังมองหางานประมูลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้าประมูลงานใหม่ปีละ 3,000 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังได้งานราว 30% อีกทั้งปัจจุบันบริษัทอยู่รหว่างเจรจากับพันธมิตร เพื่อร่วมกันผลิตสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
www.mitihoon.com