ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง หรือ TPCH ทำธุรกิจผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดย “นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี” ประธานคณะกรรมการบริหาร เผยว่า แนวโน้มผลงานไตรมาส 1/62 จะเติบโตกว่าไตรมาส 1/61 เพราะบริษัทจะรับรู้โรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบเต็มจำนวน 6 แห่ง ขนาด 60 MW
ลุยCOD41MW-รุกเมียนมา
ส่วนทั้งปี 62 มั่นใจผลงานจะทำสถิติสูงสุดใหม่(นิวไฮ) เมื่อเทียบกับปี61 ที่มีกำไรสุทธิ 355 ล้านบาท และรายได้รวมที่ 1.57 พันล้านบาท เนื่องจากจะมีโรงไฟฟ้าที่พร้อมจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) อีก 3 โรง รวม 41 MW ได้แก่ โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน เพาเวอร์ (PTG) ขนาด 21 MW จะเริ่ม COD ตั้งแต่ไตรมาส 3/62 นี้ ส่วนโรงไฟฟ้า TPCH 1 และTPCH 2 กำลังการผลิตรวม 20 MW จะ COD ได้ในช่วงปลายปี 62 ดังนั้นจะทำให้ในสิ้นปี 62 จะมีโรงไฟฟ้าที่ COD รวมทั้งสิ้น 100 MW จากปีก่อนที่ 60MW
พร้อมกันนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรเอกชนที่เมียนมา และกัมพูชา เพื่อจะลงทุนร่วมกันก่อสร้างโรงไฟฟ้าไบโอแมส โดยขณะนี้กำลังศึกษาเรื่องของวัตถุดิบที่จะใช้ในโรงไฟฟ้า เบื้องต้นจะมีกำลังการผลิต 5-6MW/แห่ง ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 40-60ล้านบาท/1MW
ปั๊มกำลังไฟฟ้า250MW
ขณะเดียวกัน “บจ.สยาม เพาเวอร์หรือ SP” ซึ่ง TPCH ถือหุ้น 50% อยู่ระหว่างลุ้นผลประมูลโรงไฟฟ้าขยะในพื้นที่ กทม.เขตอ่อนนุช ขนาด 20 MW คาดจะทราบผลเดือนส.ค.นี้ หากได้รับการคัดเลือกก็พร้อมที่จะลงทุนทันที
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 มี.ค.62 SP ได้ผ่านคุณสมบัติโครงการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนในรูปแบบ FiT จากกกพ.โครงการตั้งอยู่อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี โดยองค์การบริหารส่วนจ.นนทบุรี ขนาดติดตั้ง 9.5 MW เสนอขาย 8.0 MW ซึ่ง SP จะยื่นเอกสารเพิ่มเติมและลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย ภายใน 120 วัน โดยโครงการนี้มีมูลค่า 1,500 ล้านบาท ระบบ FIT ราคาหน่วยละ 5.78 บาท คาดอัตราผลตอบแทน EIRR อยู่ที่ 18-23 % ต่อปี
โดยบริษัทตั้งเป้าภายในปี 63 จะมีกำลังการผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเป็น 200 MW และโรงไฟฟ้าจากขยะ 50MW
www.mitihoon.com