มิติหุ้น – บล.ฟินันเซียไซรัส (มิติหุ้น) พัฒนาระบบเทรดเต็มเครื่อง หวังฐานลูกค้าระบบ Finansia HERO พุ่งแตะแสนรายในQ2/62 ยันมาร์เก็ตแชร์อุตฯโบรกเกอร์วิ่งสู่ท็อป3 เร็วๆนี้ หลังทำการตลาดเพียบ-กุนซือให้ความรู้นลท.เต็มคลัง อยู่ระหว่างศึกษาระบบซื้อขายเชื่อม CLM หวังเพิ่มช่องทางเทรดให้ลูกค้า คาดได้ข้อสรุปปีนี้
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) โดยนายชัชวาล เดชาโรจนภัทท์ กรรมการบริหารฝ่ายสื่อสารการตลาด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาระบบการซื้อขาย บนแอปพลิเคชันนวัตกรรมใหม่ อย่าง “Finansia HERO” อย่างต่อเนื่อง โดยภายในวันที่ 5 เม.ย.62 นี้ จะมีการปรับโฉมใหม่ เพื่อให้มีความทันสมัย และตอบสนองการซื้อขายหุ้นในยุคปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ช่วงเดือน ม.ค. – มี.ค.62 ได้มียอดดาวน์โหลด Finansia HERO เข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 35,000 ราย จากเดิมที่มีการดาวโหลดอยู่ที่ 50,000 ราย ดังนั้นขณะนี้บริษัทจึงมีฐานลูกค้า Finansia HERO อยู่ที่งสิ้น 85,000 ราย จากการเปิดใช้บริการระบบ Finansia HERO เพียงระยะไม่เกิน 1 ปี โดยมั่นใจว่าภายในปีนี้จะมีลูกค้าระบบFinansia HERO อยู่ที่ 100,000ราย และอีก 3 ปีข้างหน้าจะมากกว่าระดับ 200,000ราย อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ มองว่าอุตสาหกรรมโบกรเกอร์ในปัจจุบันมีการแข่งขันในระดับสูง โดยเฉพาะค่าคอมมิชชั่นที่บางบริษัทได้ลดอัตราซื้อขายลงเหลือระดับต่ำสุดกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม แต่ในอีกมุมนั้นนักลงทุนไม่สามารถได้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการซื้อขาย เนื่องจากระดับค่าคอมมิชชั่นที่ต่ำ ได้ตัดต้นทุนของที่ปรึกษา รวมถึงระบบการให้ข้อมูลต่างๆไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตาม บล.ฟินันเซียไซรัสนั้น มีอัตราค่าคอมมิชชั่น อยู่ในระดับกลาง หรือใกล้เคียงกับอุตสาหกรรมที่ 0.15% ดังนั้นบริษัทหลักทรัพย์จึงมั่นใจจะอยู่ในระดับท็อปทรี ของอุตสาหกรรมโบรกเกอร์ จากการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีผู้มีความรู้ทั้งนักลงทุนรุ่นใหญ่ และนักวิเคราะห์ที่มีความสามารถเฉพาะทาง เพื่อส่งเสริมทั้งความรู้และแนวทางการลงทุนให้แก่นักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อมีจุดประสงค์ให้ผู้ซื้อขายได้กำไรจากการเทรดในระดับสูงสุด
นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาและเจรจา ในประเทศเพื่อบ้านอย่าง กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เพื่อต้องการนำระบบการเทรดหุ้น ไปซื้อขายหุ้นในประเทศดังกล่าวได้ด้วยตนเอง โดยเป็นการเทรดผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดูข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศนั้นๆ และต้นทุนในการดำเนินการ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อนักลงทุนที่ใช้บริการกับ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าภายในปีนี้จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทได้มีระบบการเทรดผ่านประเทศเวียดนามเพียงประเทศเดียว ซึ่งได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี