ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า คณะกรรมการกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธาน กกพ.เผยว่า ภารกิจเร่งด่วนของกกพ.ที่ต้องดำเนินการภายใต้ร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี2561-2580 (พีดีพี 2018) หรือ แผนพีดีพี ฉบับใหม่ คือ ต้องเร่งเจรจาการก่อสร้างโรงไฟฟ้าในพื้นที่ภาคตะวันตก จำนวน 2 โรง โรงละ 700 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิต 1,400 เมกะวัตต์
โดยโรงแรกจะเป็นการก่อสร้างทดแทนโรงไฟฟ้าไตรเอนเนอจี้ของ บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง หรือ RATCH กำลังผลิต 700 เมกะวัตต์ ที่จะสิ้นสุดอายุสัญญาเดือน ก.ค. 63 และอีกโรงเป็นการสร้างโรงไฟฟ้าใหม่อีก 700 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้ง 2 โรงไฟฟ้าจะช่วยเสริมความมั่นคงไฟฟ้าป้อนให้กับความต้องการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ภาคใต้
ทั้งนี้ กกพ.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อทำหน้าที่ในการเข้าไปเจราจาแล้ว ซึ่งมีนายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการ กกพ.เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯดังกล่าว คาดว่า ผลการเจรจาจะมีความชัดเจนภายใน 1-2 เดือนนี้ อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลการเจรจาจะออกมา อย่างไรก็จะต้องนำกลับเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการบริหารนโยยาบพลังงาน (กบง.)อีกครั้ง
สำหรับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำคัญในการเจรจานั้นจะต้องใช้ระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่มีอยู่แล้ว และตั้งอยู่บนพื้นที่เดิม คือ จ.ราชบุรี เพื่อให้สามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ได้เสร็จทันตามแผนพีดีพี ที่กำหนดให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COC) ในปี 2567-2568 ได้ทัน และต้องไม่กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า ที่ตลอดแผนพีดีพี ฉบับใหม่ กำหนดอัตราค่าไฟฟ้าตลอด 20 ปี หรือสิ้นสุดปลายแผนปี 2580 อยู่ที่ 3.576 บาทต่อหน่วย
www.mitihoon.com