NER ยอดขาย Q1/62 ทะลุเป้า พร้อมปั๊มงบปีโตสุดขั้ว มั่นใจรายได้มาตามนัด 1.35 หมื่นลบ. มั่นใจบริดจ์สโตนสั่งออเดอร์เพิ่ม

171

มิติหุ้น – NER ลั่นปริมาณขาย Q1/62 ทะลุเป้า 6.6หมื่นตัน มั่นใจทั้งปีขายได้มากกว่าแผนที่ไว้วางไว้ 2.64 แสนตัน เผย 10พ.ค. มีเซอร์ไพร์เด็ด หลังผลงาน Q1/62 โตสุดจัดจ้าน พร้อมยันเป้ารายได้ปีนี้โตแน่ 20% ระบุลูกค้ารายใหญ่ “Bridgestone” มีแววสั่งออเดอร์เพิ่ม หลังยอดขายพุ่งแรง จากเดิมสั่ง 3 พันตัน/เดือน

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ. นอร์ทอีส รับเบอร์ หรือ NER ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม เพื่อจำหน่ายไปยังผู้ผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์และกลุ่มผู้ค้าคนกลาง โดยนายชูวิทย์ จึงธนสมบูนรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า แนวโน้มปริมาณการขายในช่วงไตรมาส 1/62 คาดทำได้มากกว่าเป้าหมายที่ 66,000 ตัน หรือมากกว่า 22,000 ตันต่อเดือน ผลมาจากการสั่งออเดอร์ล่วงหน้าจากช่วงปลายปีก่อน รวมถึงการสั่งสินค้าช่วงต้นปีเข้ามาจำนวนมาก ทั้งจากลูกค้ารายย่อยและรายใหญ่

ดังนั้น มั่นใจทั้งปีปริมาณการจำหน่ายยางพาราแปรรูปทุกผลิตภัณฑ์มีโอกาสทำได้มากกว่าแผนที่ตั้งไว้ 264,000ตันต่อปี สูงขึ้นจากปีก่อนที่มีปริมาณการขาย 220,000 ตันต่อปี

พร้อมกันนี้ ภายในวันที่ 10 พ.ค.62 บริษัทจะทำการแจ้งผลการดำเนินงานประจำงวดไตรมาส 1/62 อย่างเป็นทางการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างมาก แม้ว่าราคายางจะอยู่ในระดับที่ทรงตัว แต่ปริมาณการขายสูงขึ้น พร้อมด้วยการลดต้นทุนในทุกกระบวนการ ทั้งในภาคการผลิตและภาคการบริหารจัดการภายใน

ทั้งนี้ บริษัทย้ำว่ารายได้ทั้งปีจะเติบโตกว่า 20% หรือมาอยู่ที่ประมาณระดับ 1.35 หมื่นล้านบาท ตามฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ มติที่ประชุมคณะกรรมการได้เตรียมจัดเงินลงทุนราว 5,500 ล้านบาท ที่มาจากกระแสเงินสด รวมถึงการกู้สถาบันการเงินเพื่อนำมาสร้างโรงงานแห่งใหม่ ซึ่งบริษัทขอย้ำว่าจะไม่มีการออกหุ้นเพิ่มทุนแต่อย่างใด เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นโดยภาพรวม ด้งนั้น จึงเห็นชอบที่จะใช้เครื่องมือทางการเงินผ่านการกู้แบงก์ เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลประโยชน์สูงสุด โดยโรงงานแห่งใหม่มีกำลังผลิตอยู่ที่ 170,000 ตัน คาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในครึ่งปีหลังของปี 2563 ดันให้กำลังผลิตปีหน้ารวมจะอยู่ที่ 460,000 ตันต่อปี ซึ่งจะรองรับออเดอร์ได้อีกจำนวนมาก
สำหรับกรณีการรายงานจากสมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์  การขายยางล้อในประเทศจีน มีการปรับตัวลดลง เนื่องจาก ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นของภาษีนำเข้าของประเทศจีนนั้น บริษัทยืนยันว่าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจแต่อย่างใด เนื่องด้วยลูกค้ารายใหญ่อย่าง Bridgestone ที่มีสัดส่วนรายได้ราว 20% ของยอดขายรวมของบริษัท มีโอกาสที่จะสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น จากเดิมที่สั่งออเดอร์ราว 3,000 ตันต่อเดือน เนื่องจากการขายในประเทศสหรัฐสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Bridgestone  ยังมีแนวทางที่จะไปเปิดโรงงานแห่งใหม่ในรัฐเทนเนสซี หากทุกอย่างแล้วเสร็จ จะส่งผลบวกให้บริษัทได้รับออเดอร์ใหม่จากลูกค้ารายเดิมเข้ามาอีกหลายเท่าตัว

www.mitihoon.com