VNG รุก‘ค้าปลีก’อัพมาร์จิ้นพุ่ง ผลงานกระฉูด-แย้มจ่ายปันผล (7/05/62)

561

มิติหุ้น – VNG ลั่นผลงานครึ่งปีหลังพุ่งกระฉูด เหตุตั้งบริษัทย่อยรุก“ค้าปลีก” พร้อมเปิดสาขาเดือน มิ.ย.นี้ เขย่ามาร์จิ้นทะลุ 50% แถมการผนึกกับ DCC ดันออเดอร์ทะลัก ลุยทุ่มงบ 2 พันล้านบาท ผุดสินค้าใหม่ไม้ OSB  ส่วน “ไม้เอ็มดีเอฟ-ปาร์ติเกิ้ล” ขายดี ดันกำลังผลิตเต็ม 100% แย้มข่าวดี กระแสเงินสดสูงกว่าพันล้านบาท พร้อมแจกปันผล

 ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.วนชัย กรุ๊ป หรือ VNG ทำธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายแผ่นไม้ เพื่อใช้ทดแทนไม้ธรรมชาติ โดย นายสมประสงค์ สหวัฒน์ กรรมการ เผยว่า มั่นใจผลงานช่วงครึ่งหลังของปี 62 จะเติบโตโดดเด่น เป็นผลมาจากการเปิดธุรกิจใหม่, ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และออเดอร์ “ไม้เอ็มดีเอฟ-ปาร์ติเกิ้ล-พื้นไม้ลามิเนต” เพิ่มขึ้น

รุกค้าปลีก – ทุ่ม 2 พันล. ผุดสินค้า OSB

โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ เพื่อทำ “ธุรกิจค้าปลีก” คาดว่าต้นเดือน มิ.ย.นี้จะเปิด 1 สาขา และมีแผนเปิดสาขาตามหัวเมืองใหญ่ๆและโซน EEC ด้วย ส่วนการขยายธุรกิจค้าปลีกผ่าน Outlet ของ DCC นั้น ล่าสุดเปิดไปแล้วหลายสาขา กระแสตอบรับดีมาก โดยธุรกิจค้าปลีกให้มาร์จิ้นสูงเกิน 50% เมื่อเทียบกับธุรกิจหลักที่ได้เพียง 20-30% จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการทำกำไรเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัททุ่มงบ 2,000 ล้านบาท เพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ “แผ่นไม้อัด OSB (Oriented Strand Board)” กำลังการผลิต 210,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อปี ภายใต้บริษัทย่อย “บจก.วนชัย พาเนล อินดัสทรี่ส์” ล่าสุดอยู่ระหว่างก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรในโรงงาน จ.สุราษฎร์ธานี คาดจะแล้วเสร็จ พร้อมสร้างรายได้ในช่วงไตรมาส 4/62 นี้ ซึ่งไม้อัด OSB ให้มาร์จิ้นสูง 30-35% เมื่อเทียบกับ ไม้เอ็มดีเอฟที่ 25-30% และ ปาร์ติเกิ้ล 20-25%

กำลังผลิตพุ่ง – แย้มแจกปันผล

ด้านธุรกิจหลัก “ไม้เอ็มดีเอฟและปาร์ติเกิ้ล” ปัจจุบันออเดอร์ในประเทศและต่างประเทศเข้ามาต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดิอาระเบีย, อิสราเอล, ไต้หวัน, เวียดนาม, จีน, ฟิลิปปินส์, เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ล่าสุดกำลังผลิตเต็ม 100% แล้ว โดย “ไม้เอ็มดีเอฟ” มีกำลังผลิต 1,170,000 ลบ.ม.ต่อปี ส่วน “ไม้ปาร์ติเกิ้ล” กำลังผลิต 840,000 ลบ.ม.ต่อปี

ทั้งนี้ แม้บริษัทจะเผชิญผลขาดทุนสุทธิ แต่บริษัทพร้อมจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น เพราะล่าสุดยังมีกระแสเงินสดสูงกว่า 1,000 ล้านบาท