มิติหุ้น – IRPC ไตรมาส 2/62 ไฮซีซัน ไม่มีหยุดซ่อมบำรุง แนวโน้ม GIM สเปรดราคาน้ำมันฟื้นตัว เตรียมทำเฮดจิ้งสเปรดราคาน้ำมัน 50% พร้อมเลื่อน FID โครงการ MARS ยันไม่ทันปีนี้
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ไออาร์พีซี หรือ IRPC ผู้ประกอบการโรงกลั่นและปิโตรเคมี โดยนางณิชชา จิรเมธธนกิจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายบัญชีและการเงิน เผยว่า ช่วงไตรมาส 2/62 เป็นช่วงไฮซีซั่นของการขับขี่ของสหรัฐอเมริกา และยุโรป ประกอบกับ IRPC ไม่มีการหยุดซ่อมบำรุง จึงคาดว่ากำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) รวมผลกระทบจากการสต๊อกน้ำมันจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/62 ที่มี GIM อยู่ที่ 8.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ขณะที่ส่วนต่างราคาน้ำมัน (สเปรด) มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นด้วย โดยปัจจุบันสเปรดราคาน้ำมันระหว่างน้ำมันดิบกลุ่มเบนซินกับน้ำมันสำเร็จรูปอยู่ที่ 9.8 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนสเปรดน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 11.7 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนปริมาณการผลิตก็จะเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อลดความเสี่ยงของสเปรดราคาน้ำมัน คณะกรรมการบริษัท (บอร์ด) ได้อนุมัติให้ทำเฮดจิ้งสเปรดราคาน้ำมัน 50% ของปริมาณการผลิต
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปีนี้ยังคงประเมินไว้ที่ 65-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล แต่ก็ต้องรอดูปัจจัยสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนด้วย เพราะอาจจะส่งผลกระทบกับราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลดลง
ขณะที่กรณีการที่องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) กำหนดให้เรือเดินสมุทรต้องใช้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำไม่เกินกว่า 0.5% ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 นั้น บริษัทได้เตรียมความพร้อมแล้ว โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น และได้ใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาทในการปรับปรุงระบบท่อภายในโรงกลั่นช่วยลดค่ากำมะถันได้ต่ำกว่าค่ามาตรฐานของ IMO และยังส่งผลให้หน่วยกลั่นมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอีกด้วย และคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนต่อค่าการกลั่นและสเปรดราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้น
สำหรับการลงทุนโครงการ Maximum Aromatics (MARS) ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนออกแบบและการประเมินผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) คาดว่าจะยังไม่สามารถตัดสินใจการลงทุนขั้นสุดท้าย (FID) ได้ไม่ทันปีนี้ จากที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปการลงทุนภายในไตรมาส2/62 เนื่องจากต้องพิจารณาเรื่องผลตอบแทนจากการลงทุนให้รอบครอบก่อน
ก่อนหน้านั้น IRPC ได้มีแผนการลงทุนโครงการ MARS เพื่อขยายกำลังผลิตอะโรเมติกส์ โดยจะสามารถเพิ่มกำลังการผลิตพาราไซลีนเป็น 1-1.3 ล้านตันต่อปี และผลิตเบนซินเพิ่มเป็น 3-5 แสนตันต่อปี และประเมินงบลงทุนทั้งโครงการไว้ราว 3.5 หมื่นล้านบาท โดยตามกำหนดแล้วเสร็จในปี 66 คาดว่าผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ในระดับ 14-16% และทำกำไรเพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
www.mitihoon.com