นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บมจ. เอเชีย ไบโอแมส หรือ ABM เปิดเผยว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ของ ABM เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2560 ขณะนี้บริษัทฯ มีการเตรียมพร้อมในการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)
โดยเตรียมตัวสำหรับการเดินสายเพื่อนำเสนอข้อมูลบริษัทแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป (โรดโชว์) เพื่อให้นักลงทุนได้ทำความเข้าใจและรู้จักเกี่ยวกับหุ้น ABM มากยิ่งขึ้น คาดว่าจะมีการโรดโชว์ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และกทม. ซึ่งหวังว่านักลงทุนจะให้ความสนใจและมีการตอบรับที่ดี
“ABM มีทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์สูงสำหรับการเป็นผู้จัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล ให้กับลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีกทั้งทีมผู้บริหารยังเล็งเห็นถึงความสำคัญในการขยายและพัฒนาบริษัทฯ เพื่อรองรับการขยายตัวจากความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในอนาคตทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้หุ้น ABM มีความน่าสนใจและคาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นางศรัณยา กล่าว
นางสาวธิญาดา ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ ABM ผู้ประกอบธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงชีวมวล กล่าวว่า บริษัทฯ มีปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในแง่ของความต้องการใช้เชื้อเพลิงชีวมวลที่เพิ่มขึ้น ซึ่งล้วนส่งผลให้บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต จึงเป็นปัจจัยหนึ่งในการทำให้บริษัทฯ เตรียมพร้อมที่จะเข้าเป็นส่วนหนึ่งในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น และมีความน่าเชื่อถือทั้งต่อลูกค้าและนักลงทุน
อนึ่ง ABM นำเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 75 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.00% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งจะเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของผู้จัดจำหน่าย และเสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ โดยมีมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หรือพาร์ที่ 0.50 บาทต่อหุ้น โดยในปัจจุบัน ABM มีทุนเรียกชำระแล้ว 112.50 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 225 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น และภายหลังเสนอขายหุ้น IPO บริษัทจะมีทุนชำระแล้ว 150 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 300 ล้านหุ้น
สำหรับเม็ดเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนลงทุนที่จะใช้ในการขยายพื้นที่เก็บรวบรวมกะลาปาล์มเพิ่มเติมในประเทศอินโดนีเซีย และมาเลเซีย ลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งกับบริษัทร่วมทุนพื้นที่บริเวณภาคใต้ รวมถึงลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตไม้สับ และโรงงานผลิตชีวมวลอัดแท่งใน จังหวัดสุราษฎร์ธานี และส่วนที่เหลือคาดว่าจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
www.mitihoon.com