DTAC รับอานิสงส์คลื่น 2300 MHzล่าช้า

260

มิติหุ้น-บทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย) ระบุว่า บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือ DTAC รายงานกำไรสุทธิงวด 4Q60 ที่ 542 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,693% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีกว่าประมาณการของเรา และที่ตลาดคาด กำไรสุทธิโดยรวมทั้งปี 2560 อยู่ที่ 2.1 พันล้านบาท (+1.4% YoY) เราปรับประมาณการปี 2561 จากที่คาดว่า จะมีผลขาดทุนสุทธิ 1.9 พันล้านบาทในปี2561 มาเป็นกำไรสุทธิ 1.9 พันล้านบาท ภายใต้สมมติฐานใหม่ว่าการใช้คลื่น 2300 MHz จะล่าช้าจากเดิม 1Q61 ไปเป็น 4Q61ในขณะที่คาดว่ากำไรในปี 2562 จะลดลง 49% เนื่องจากรายได้ลดลง และสัดส่วน SG&A/ยอดขายเพิ่มขึ้น หลังปรับประมาณการแล้ว ราคาเป้าหมายของเราลดลงจาก 59 บาท เหลือ 53 บาท และเรายังคงแนะนำเพียง “ถือ”

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) แนะนำ “ทยอยซื้อ” DTAC หลังผลการดำเนินงานปี 60 อยู่ที่ 2,115 ล้านบาท เติบโต 1.4 % แม้รายได้การให้บริการ(ไม่รวม IC)ทรงตัว  พร้อมประเมินราคาพื้ฐานปี 2561 อยู่ที่ 56 บาท/หุ้น แต่ฝ่ายวิเคราะห์มีแนวโน้มปรับประมาณการปี 2561-2562 ขึ้นจากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด และการเซ็นสัญญาคลื่น 2300 MHz ที่ล่าช้า  ขณะที่ DTAC ประกาศจ่ายปันผลปี 2560 ที่ 0.24 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 15 ก.พ.2561 และจ่ายปันผลวันที่ 4 พ.ค. 2561

ด้าน บล.หยวนต้า ให้ 4 เหตุผลที่คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” 1) กำไรปกติ4Q60 อยู่ที่559 ล้านบาท (-7.6%QoQ, +2330% YoY) หากตัดการบันทึกประโยชน์ทางภาษี 180 ล้านบาท กำไรปกติใกล้เคียงที่เรา และตลาดคาด 2) บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 2561 รายได้ หลักและ EBITDA ทรงตัว สะท้อนทิศ นโยบายหลักควบคุมต้นทุนเป็นสำคัญ 3) ขณะที่เราเชื่อว่าตลาดมองข้ามผลประกอบการ ระยะสั้น และให้น้ำหนักกับเรื่องคลื่นเป็นสำคัญ จับตาการเซ็นคลื่น 2300MHz กับ TOT ภายใน 1H61 เพื่อลดความเสี่ยงการประมูลคลื่นที่ยังไม่แน่นอน ทั้งนี้ 4) เราปรับประมาณการและราคาเหมาะสมลงเป็น 50.00 บาทต่อหุ้น DTAC ประกาศจ่ายปันผล 0.24 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD วันที่15 ก.พ. 61

ส่วนบล.ฟินันเซียไซรัส มีมุมมองเชิงลบ ต่อ DTAC ในปี 2018 ที่คาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวม IC จะทำได้เพียงทรงตัว Y-Y แม้ว่า จะเห็นพัฒนาการใน 4Q17 ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผลจาก Net add ที่ยังมีติดลบต่อเนื่องรวมถึงความเสี่ยงจากการเสียลูกค้าบางส่วนหลังหมดสัมปทาน ขณะที่ฝั่ง EBITDA ที่ไม่รวมต้นทุนคลื่น 2300 MHz ผู้บริหารคาดว่าจะทรงตัว Y-Y หรือหดตัว จึงทำให้เรายังคงมีมุมมองเชิงลบต่อประมาณการกำไรปกติ 2561 โดยปัจจุบันเรายังคงไว้ที่ 1,422 ล้านบาท ลดลง 28.4 % หดเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน จึงปรับคำแนะนำเป็น “ขายทำกำไร”  ตั้งแต่ช่วงปลายปีก่อนและทำให้ปัจจุบันราคาเต็มมูลค่าเมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมที่ 50 บาท ขณะที่ความเสี่ยงยังคงมีทั้งเรื่องเงื่อนเวลาในการได้รับอนุญาตใช้งานคลื่น 2300 MHz รวมถึงการประมูลคลื่น 1800 MHz  และ 900MHz ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป

www.mitihoon.com