เน้นลงทุนช่วงสั้น รอตลาดรับปัจจัยบวก

325

              เข้าสู่สัปดาห์ทำการแรกของเดือนมิถุนายน ในเดือนนี้ตลาดหุ้นไทยและการลงทุนมีปัจจัยทั้งในและต่างประเทศ ให้ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องจากเดือนที่ผ่านมา โดยประเด็นสำคัญในขณะนี้คือเรื่องสงครามระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังคงรุนแรงทั้งสองฝ่ายพยายามสร้างอำนาจต่อรองกันและยังไม่มีกำหนดการเจรจากันรอบใหม่ ซึ่งทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบ และการซื้อขายสินค้าของโลกชะลอตัวลง แม้ว่าผลกระทบจากการขึ้นภาษีจะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงเดือนนี้ แต่ทำให้ตลาดหุ้นโลกยังมีแรงขายออกมา เห็นได้จากตลาดหุ้นเกิดใหม่ที่ปรับตัวถึง 8.7% ในเดือนที่ผ่านมา เพราะบริษัทในตลาดส่วนใหญ่อิงรายได้จากการส่งออก

สำหรับในเดือนมิ.ย. นี้ KTBST ประเมินว่า ปัจจัยที่จะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย คือ ปัจจัยการเมืองในประเทศ หลังมีรัฐบาลที่สามารถดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ และช่วยเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นทำให้เกิดความเชื่อนมั่นในการลงทุนโดยตรงและในตลาดหุ้น ทั้งนี้กระทรวงการคลังประเมินว่างบประมาณที่จะให้รัฐบาลใหม่นำมาใช้สำหรับโครงการกระตุ้นและดูแลเศรษฐกิจยังมีเหลือกว่า 7.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกสำคัญที่จะหนุนดัชนี SET Index ให้ยืนได้เหนือระดับ 1,600 จุด ขณะเดียวกัน มีโอกาสที่กระแสเงินลงทุนไหลจะเข้าตลาดเกิดใหม่ เพราะมีแนวโน้มที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากผลของสงครามการค้าที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัว

แต่ประเด็นที่ยังทำส่งผลตลาดผันผวนในช่วงเดือนนี้ ยังคงเป็นเรื่องสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ เนื่องจากสหรัฐฯและจีน ยังไม่มีท่าทีประนีประนอมต่อกันและยังขึ้นภาษีทางการค้าตอบโต้กันจนลามไปถึงประเทศคู่ค้าอื่นอย่างเม็กซิโก และด้วยผลจากสงครามการค้ากระทบการส่งออกของประเทศต่างๆ ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะประเทศไทย ทำให้แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 2 อาจจะออกมาต่ำกว่าไตรมาสที่  1 KTBST ประเมินว่ากำไรของตลาดหุ้นไทยปีนี้อาจเติบโตลดลงระดับอยู่ที่ 5% จากเดิม 9%

ด้วยโดยภาพรวมจึงทำให้ KTBST ประเมินว่าด้วยปัจจัยลบดังกล่าวทำให้นักลงทุนย้ายเงินลงทุนไปสู่สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำอย่างพันธบัตรและทองคำ ดังนั้นตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ยังมีแนวโน้มอยู่ในช่วงพักฐานเพื่อรอปัจจัยบวก กลยุทธ์ลงทุนจึงควรเน้นเก็งกำไรในช่วงสั้น ในหุ้นกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะเฉพาะตัว เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสัมปทานภาครัฐฯ  EA, MINT, CK, SCB, AMATA และTTW  ติดตามข่าวสารการลงทุนได้จาก ”มุมความรู้”  https://www.ktbst.co.th/th/knowledge.php

โดยชาตรี  โรจนอาภา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ 

บล. เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST)

www.mitihoon.com