5 อันดับข่าวเด่นมิติหุ้นภาคเช้า

601

อันดับที่ 1 CWT เผย สวทช.ใส่เงิน 20ล.ถือหุ้น ‘SakunC’ จากกลุ่มโชคนำชัย 10% ต่อยอดนวัตกรรมยานยนต์แบรนด์ไทย

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป หรือ CWT ผู้ผลิตเบาะหนังและชิ้นส่วนหนังยานยนต์ ตลอดจนถือหุ้นในโรงไฟฟ้า โดยนายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ เปิดเผยว่า บริษัท ได้ส่งบริษัทย่อย บริษัท สกุลฎ์ซี อินโนเวชั่น จำกัด (SakunC) ถือหุ้น 50.01% เข้าร่วมลงทุนกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เพื่อการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยี ผลิตเป็นยานพาหนะสมัยใหม่ เช่น เรืออลูมิเนียม รถโดยสารอลูมิเนียม และยานยนต์ประเภทอื่นที่มีการใช้เทคโนโลยีอย่างครบวงจร และช่วยผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ของไทยให้ก้าวหน้า ตอบรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และกรอบแผนยุทธศาสตร์ระยะ 20 ปี
นายวีระพล กล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้ สวทช. ใส่เงินสนับสนุนในบริษัทสกุลฎ์ซี จำนวน 20 ล้านบาท โดยเข้าซื้อหุ้นเดิม 10% จากกลุ่มโชคนำชัย ซึ่งบริษัทยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 50% และปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท

อันดับที่ 2 TITLE “ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้” เผยเหตุราคาหุ้นดิ่ง มาจากหุ้นที่เกิดจากหุ้นปันผลอัตรา 2:1 ยันผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีการขายหุ้นออก พร้อมเดินหน้าซื้อหุ้นคืน 15 ล้านหุ้น

บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เผยกับมิติหุ้นว่า การที่ราคาหุ้นปรับตัวลงเมื่อสัปดาห์ก่อน คาดว่าเป็นหุ้นที่เกิดจากหุ้นปันผลอัตรา 2:1 ก่อนหน้านี้ ขณะที่ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไม่มีการขายหุ้นออกมาแต่อย่างใด และบริษัทยังคงมีโครงการซื้อหุ้นคืนจำนวน 15 ล้านหุ้นที่ดำเนินการอยู่ สำหรับเป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 62 ไม่เปลี่ยนแปลงคาดรายได้การโอนไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ขยายตัว 300% จากปีก่อน โดยมีแผนที่จะเปิดโครงการที่หาดนายยางเฟส 3 มูลค่า 5,000 ล้านบาท ตามแผนทุกประการ ยันสภาพคล่อง และฐานะการเงินแข็งแกร่ง

อันดับที่ 3หุ้นรีซูมเทรด AI,AIE กลับมาซื้อขายวันแรกไม่คึกคัก กูรูเชียร์เก็บ AI กำไรกระฉูดเกิน 390 ลบ.

มิติหุ้น-ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นที่กลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้ง หรือ รีซูมเทรด คือ AI หรือ บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ ,AIE หรือ บมจ.เอไอ เอนเนอร์จี  โดยพบว่า AI ราคาเปิดที่ 1.30 บาท. ส่วนราคาล่าสุดอยู่ที่ 1.31 บาท/หุ้น  ส่วนหุ้น AIE ราคาเปิดอยู่ที่ 0.42 บาท ส่วนราคาล่าสุด(11.25 น.)อยู่ที่ 0.42 บาท โดย AI ดำเนินธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าเซรามิกที่ใช้ในระบบส่งและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ส่วน AIE ดำเนินธุรกิจผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มภายใต้ตราสินค้า พาโมลา ซึ่งทั้ง 2 บริษัทตลาดหลักทรัพย์ปลดเครื่องห มาย (SP) และกลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้งในวันนี้(10มิ.ย.) ด้านเด็กแนวมองแนวโน้มการเติบโต AI โดยเฉพาะกำไรปี 62 อยู่ที่ 388 ล้านบาท ส่วนรายได้อยู่ที่ 969 ล้านบาท แต่คาดว่ากำไรจะสูงกว่าที่คาดการณ์หรือไม่น้อยกว่า 390 ล้านบาท จึงแนะนำซื้อหรือประเมินราคาที่เหมาะสมเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 2 บาท

อันดับที่ 4 MINT ได้เวลาเก็บเกี่ยว ธุรกิจผ่านจุดต่ำสุด

ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น รายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า ราคาหุ้น บริษัท  บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) MINT ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลังจากเปิดตลาดเช้าวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า MINT จะเริ่มได้รับอานิสงส์จาก NH Hotel Group (NHH SM not rated) ตั้งแต่ไตรมาส 2/2562 เป็นต้นไป แม้ว่าจะยังคงประมาณการและราคาเป้าหมายไว้ที่ 42 บาท (WACC 8.4%, LTG 2.5%) แต่ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น “ซื้อ” เนื่องจากผ่านไตรมาสที่ชะลอตัวที่สุดแล้ว โดย ฝ่ายวิเคราะห์เลือก MINT เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มโรงแรม เนื่องจากมีแนวโน้มกำไรสูงกว่าผู้ประกอบการโรงแรมรายอื่นที่เข้าสู่ช่วงโลว์ซีซันของการท่องเที่ยวของไทย อีกทั้ง MINT ซื้อขายที่ราคาที่น่าสนใจ โดยมี P / E ปี 2562 ที่ 26.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 31.5 เท่าและใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 25.8 เท่า

อันดับที่ 5 KTBST คาด SET ขยับตัวบวกรับปัจจัยต่างประเทศ KTBST ยังแนะนำลงทุนปลอดภัย

 ดร.วิน  อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์  เคทีบี (ประเทศไทย)  จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST  เปิดเผยว่า ประเด็นสำคัญที่จะมีผลต่อแนวโน้มตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ (10-14 มิ.ย. 62) คือ ทิศทางของธนาคารกลางประเทศต่างๆที่เริ่มดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน เนื่องจาก คาดว่าเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงเพราะผลกระทบจากสงครามการค้า โดยล่าสุด (5 มิ.ย.) ธนาคารโลกได้ปรับลดการเติบโตของ GPD โลกลงจากระดับ 2.9% เหลือ 2.6%  ดังนั้นตลาดจึงจับตาดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในการประชุม FOMC วันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ ในเรื่องแนวโน้มการที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่ง KTBST มองว่าเป็นผลบวกต่อตลาดหุ้นและเงินดอลล่าร์ที่จะอ่อนค่าลง ขณะเดียวกันทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ มีโอกาสขยับขึ้นด้วยเช่นกัน

www.mitihoon.com