ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ PTTEP โดยนางสาววชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย ผู้ช่วยกรรมการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ ประเมินหุ้น PTTEP ว่า ปริมาณการขายปิโตรเลียมไตรมาส 2/62 เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 330,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน มากว่าไตรมาส 1/62 มีปริมาณการขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 319,230 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เทียบไตรมาส 1/61 ที่อยู่ระดับ 293,099 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน เนื่องจากมีการซื้อสัดส่วนเพิ่มเติมในแหล่งบงกช
คาดปี62 ปริมาณขาย344,000 บาร์เรล
ขณะภาพรวมปี62 ภายหลังจากการซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เมอร์ฟี่ ซาบาห์ ออยล์ จำกัด และบริษัท เมอร์ฟี่ ซาราวัก ออยล์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท เมอร์ฟี่ ออยล์ คอร์ปอเรชั่น ครอบคลุมแหล่งน้ำมันและแหล่งก๊าซธรรมชาติ จำนวน 5 โครงการ และเริ่มผลิตแล้วจำนวน 2 โครงการปริมาณการผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้น 48,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน แต่คาดว่าจะรับรู้ในปีนี้ราว 24,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ส่งผลให้ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น 7.5% หรือเป็น 344,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน
ลุ้นราคาน้ำมัน 65 เหรียญฯ
อย่างไรก็ตามแม้จะมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นแต่ก็ถูกกดดันด้วยราคาน้ำมันซึ่งช่วงเดือน มิ.ย.62 ราคาน้ำดิบดูไบปรับตัวลดลงโดยล่าสุดมาอยู่ในระดับ 61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลจากต้นไตรมาส2/62 นั้นอยู่ในระดับ 66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล โดยต้องรอลุ้นช่วงปลายเดือนมิ.ย.นี้ราคาน้ำมันจะปรับตัวมาอยู่ในระดับ 66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลได้หรือไม่ซึ่งต้องรอลุ้นว่าองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันออก (โอเปก) ซึ่งจะมีการประชุมวันที่ 25-26 มิ.ย.62 จะมีข้อตกลงขยายระยะเวลากำลังการผลิตน้ำมันออกไปอีกหรือไม่จะช่วยสร้างความสมดุลให้กับราคาน้ำมัน แต่ก็ต้องดูว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเชลล์แก๊สในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีปริมาณผลิตล้นตลาดหรือไม่
ดังนั้นจากสถานการณ์น้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงจะส่งผลให้ผลประกอบการไตรมาส 2/62 PTTEP มีโอกาสปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส1/62 ที่มีกำไรสุทธิ 12,479 ล้านบาท และเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,590 ล้านบาท ส่วนภาพรวมทั้งปี62 ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ประเมินว่าจะมีกำไรสุทธิ 43,000 ล้านบาทจากปัจจัยหนุนของปริมาณการขายคาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 344,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน และประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบที่ระดับ 65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ส่วนในปี63 จากซื้อหุ้นทั้งหมดของบริษัท เมอร์ฟี่ ซาบาห์ ออยล์ จำกัด และบริษัท เมอร์ฟี่ ซาราวัก ออยล์ จำกัดและรับรู้รายได้เต็มปี อย่างไรก็ตามปัจจุบันราคาหุ้นอยู่ในระดับ 128 บาทยังคงมองว่าเป็นระดับราคานี้หน้าซื้ออยู่ ทั้งนี้นักวิเคราะห์ประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 155 บาทแนะน้ำซื้อ