ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI โดย “นายพีระพงศ์ จรูญเอก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า ในช่วงไตรมาส 2/2562 บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้อย่างยอดเยี่ยมถึง 7,290 ล้านบาท โดยขณะนี้ยอดขายสะสมของบริษัทในครึ่งปีแรกคือ 13,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 28,000 ล้านบาท
โดยสาเหตุหลักมาจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวในช่วงไตรมาส 2/2562 จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ (The Origin Ram 209 Interchange) โครงการภายใต้แบรนด์น้องใหม่ “ดิ ออริจิ้น” โครงการแรก และ 2. โครงการพาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน (PARK ORIGIN Chula-Samyan) สามารถสร้างยอดขายได้เหนือความคาดหมาย
“ ยอดจองของโครงการส่วนใหญ่ทั้งตลาดปีนี้ไม่ได้สูงนักในวันพรีเซล แต่ขณะที่ดิ ออริจิ้น ราม 209 อินเตอร์เชนจ์ มีผู้บริโภคมารอต่อแถวเข้าคิวจองตั้งแต่ช่วงเช้ามืดและกวาดยอดขายอย่างถล่มทลายกว่า 700 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนกว่า 70% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาทภายในช่วงเปิดพรีเซลครั้งแรก ขณะเดียวกัน โครงการพาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่านนั้น แม้จะเพิ่งเปิดขายรอบ VVIP ยังไม่ได้เปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการ ก็สามารถกวาดยอดขายไปได้แล้วกว่า 50% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 2,200 ล้านบาท ทั้ง 2 เรื่องถือเป็นปรากฏการณ์แห่งปีที่สวนกับทิศทางตลาด” นายพีระพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้คาดว่ากระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมดังกล่าว มาจากศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการ ประกอบกับฟังก์ชั่นต่างๆ ในโครงการที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้บริโภค และที่สำคัญคือ ความไว้วางใจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่มีต่อออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ขณะเดียวกัน โครงการอื่นๆ ที่เปิดขายมาแล้วก่อนหน้านี้ ก็ยังสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่องทุกโครงการ
ดังนั้นจากปริมาณยอดขายและกระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่ยังคงเป็นไปอย่างยอดเยี่ยม ทำให้บริษัทมีความมั่นใจในการเปิดตัวโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงไตรมาสที่ 3/2562 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่อีก 6 โครงการ ได้แก่ โครงการพาร์ค ออริจิ้น ราชเทวี, โครงการเคนซิงตัน ดิสทริค ระยอง, โครงการภายใต้แบรนด์ดิ ออริจิ้นอีก 3 โครงการใน 3 ทำเลศักยภาพ ได้แก่ รัชดา ลาดพร้าว และสุขุมวิท และโครงการบ้านจัดสรร บริทาเนีย บางนา-สุวรรณภูมิ 1 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการรวมกว่า 8,100 ล้านบาท
“ครึ่งปีหลังของปีนี้ เรายังมีโครงการที่รอเปิดตัวอีกจำนวนมากในทุกเซ็กเมนท์ครอบคลุมทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร รวมถึงยังมีแคมเปญอีกหลายอย่างที่รอเปิดตัว เริ่มจากของแบรนด์ดิ ออริจิ้น ที่จะเปิดตัวคอนเซ็ปต์ของแบรนด์พร้อมแคมเปญการตลาดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 11 ก.ค.นี้ เชื่อว่าจะตอบโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในทุกระดับ และส่งผลให้ยอดขายในปี 2562 เป็นไปตามเป้าหมาย 28,000 ล้านบาท” นายพีระพงศ์ กล่าว
สำหรับ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 58 โครงการ เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (PARK ORIGIN) ดิ ออริจิ้น (The Origin) ไนท์บริดจ์ (KnightsBridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), เคนซิงตัน (Kensington) และ บริทาเนีย (BRITANIA) รวมมูลค่าโครงการกว่า 94,000 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้หมุนเวียนต่อเนื่อง (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และยังมีวิสัยทัศน์ในการขยายประเภทธุรกิจใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร