อันดับที่ 1 SET ร่วงแรง! เซียนหุ้นให้รับสำคัญ 1,792 จุด หากหลุด แนะนำเทขายหุ้นยกพอร์ต ปิดเสี่ยง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บล. เออีซี โดย นายรณกฤต สารินวงศ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงแรง มองว่าเกิดจากผลตอบแทนของธนบัตร 10 ปี ของสหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าปกติ ตามเศรษฐกิจที่ฟื้นได้อย่างดี โดยให้แนวรับสำคัญที่ 1,792 จุด หากหลุด แนะนำให้นักลงทุน “ขายตัดขาดทุนหุ้นในพอร์ตทันที” เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้ หรือหากสนใจที่จะเข้าลงทุน แนะนำให้ลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/2560 ออกมาโดดเด่น อย่างเช่น FER ที่ผลประกอบการไตรมาส 4/2560 คาดจะเทิร์นอะราวด์ ต่อมาเป็น ICHI ที่ประเมินว่าผลประกอบการ Q4/2560 จะออกมาโตโดดเด่น
อันดับที่ 2 QH กูรูปรับราคาเป้าหมาย 3.85 บ. มองกำไรเติบโตต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มราคาเป้าหมาย บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ หรือ QH ที่ 3.85 บาทจากเดิมที่ 3.40 บาท หลังปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2562-2563 ขึ้น 8.1% และ 7.1% ตามลำดับ จากความคาดหวังของความสามารถในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้งระดับ GPM และ SG&A ต่อรายได้ หลังบริษัทได้ปรับลดสินค้าคงเหลือเก่าๆ ที่มี margin ต่ำไปได้ค่อนข้างมาก ขณะที่โครงการใหม่ๆ สามารถให้ margin ที่ดีจากกลยุทธการพัฒนาโครงการรวมศูนย์และการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง เช่น การใช้สื่อดิจิตอล โดยเราเห็นว่าผลประกอบการที่ไม่ดีนักในปี 2560 จะเป็นจุดต่ำสุดของวงจรการพัฒนารอบปัจจุบัน ซึ่งคาดรายได้และกำไรปกติจะปรับตัวดีขึ้นชัดเจนในปี 2561-62 ซึ่งจาก upside ที่ 21.1% และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ 5.2% ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” QH
อันดับที่ 3 ผู้ถือหุ้น STAR ไฟเขียวออก STAR-W3
มิติหุ้น-นายกฤช เอทเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ ยูนิเวอร์แซล เน็ตเวิร์ค หรือ STAR เปิดเผยว่า มติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 2 ก.พ.2561 ได้มีมติอนุมัติเป็นเอกฉันท์ให้มีการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 หรือ STAR-W3 ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน การถือหุ้น จำนวนไม่เกิน 135,454,748 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าและมีอัตราการจัดสรรเท่ากับ 2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ กรณีมีเศษให้ปัดเศษทิ้ง โดยมีอัตราการใช้สิทธิคือใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิมีสิทธิซื้อหุ้นสามัญได้ 1 หุ้นโดยกำหนดราคาการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 4.00 บาทต่อหุ้น โดยใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุ 2 ปีนับแต่วันที่ออกและเสนอขาย ทั้งนี้อัตราการใช้สิทธิและราคาการใช้สิทธิอาจเปลี่ยนแปลงในภายหลังตามเงื่อนไขการปรับสิทธิ พร้อมกันนี้อนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากเดิม 189,636,647.90 บาท เป็น 284,454,971.50 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 135,454,748 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (STAR-W3)
อันดับที่ 4 ก.พลังงานเตรียมชงครม. อนุมัติสร้างสายโรงไฟฟ้า GULF
มิติหุ้น-มีรายงานว่ากระทรวงพลังงาน และกฟผ.เตรียมส่งเรื่องไปยังคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ภายในเดือน ก.พ. นี้ เพื่อขออนุมัติโครงการการก่อสร้างสายส่งเพื่อรองรับโครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(IPP) ของ บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ที่ชนะการประมูลเพียงรายเดียวจำนวน 5,000 เมกะวัตต์ เมื่อปี 2556 รวมถึงยังเตรียมเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.พิจารณาความเหมาะสมในการใช้อำนาจตามมาตร 44 เข้ามาดำเนินการยกเว้นการดำเนินการตามข้อกฏหมายในบ้างเรื่องที่เป็นอุปสรรคต่อการสร้างสายส่งทั่วประเทศด้วย เพื่อให้โครงการต่างๆเดินหน้าได้ตามแผนโดยเร็ว ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มออกหลักเกณฑ์เงื่อนไขการประมูล (TOR) เพื่อเปิดประมูลหาผู้รับเหมาโครงการก่อสร้างสายส่งได้ ช่วงต้นปี 2561 เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในยูนิตแรก 2,500 เมกะวัตต์ ที่จะทยอยเข้าสู่ระบบในปี 2563 จากนั้นจะดำเนินการสายส่งระยะที่ 2 เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าในยูนิตสอง 2,500 เมกะวัตต์ต่อไป เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเสร็จสิ้นตามแผนในปี 2568
อันดับที่ 5 LH โยน Big Lot ภาคเช้า 354 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 10.90 บ./หุ้น ต่ำกว่ากระดาน มูลค่ารวม 3.92 พันลบ.
ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า ราคาหุ้น บมจ. แลนด์แอนด์เฮ้าส์ หรือ LH ภาคเช้า ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ต่ำสุด 10.90 บาท หรือลดลง 0.90 บาทจากราคาปิดวันศุกร์ และล่าสุด (11.55 น.) อยู่ที่ 11.10 บาท ลดลง 0.70 บาท หรือลดลง 5.93% มูลค่าการซื้อขาย 2.32 พันล้านบาท ภายหลังจากที่ LH ได้มีการซื้อขายหุ้น Big lot จำนวน 354 ล้านหุ้น ราคาเฉลี่ย 10.90 บาท/หุ้น ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่ากระดานซื้อขาย มูลค่ารวมทั้งสิ้น 3.92 พันล้านบาท บล.บัวหลวง เผยว่า คาดการเติบโตของกำไรหลักในปี 2561 จะเพียงทรงตัวและไม่น่าสนใจนัก รายได้จากโครงการคอนโดจะชะลอตัวลงมาเนื่องจากไม่มีโครงการคอนโดขนาดใหญ่สร้างเสร็จพร้อมโอนในปีนี้เลย ทั้งนี้ความชัดเจนของรายได้อยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากยอดขายรอรับรู้รายได้อยู่ที่เพียง 15% โดยแนะนำ “ถือ” ราคาพื้นฐาน 12 บาท