มิติหุ้น ผู้สื่อข่าว “มิติหุ้น” รายงานว่า บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ หรือ ALL ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาฯ เพื่อเป็นที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และแนวราบ โดย นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า บริษัทยังคงมั่นใจว่าผลประกอบการไตรมาส 2/2562 จะเติบโต ต่อเนื่อง เพราะจะทยอยส่งมอบ Backlog ที่สร้างแล้วเสร็จใหม่ 2 โครงการมูลค่า 1.39 พันล้านบาท
“ ผลประกอบการโดยรวมยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะไตรมาส 2 ปีนี้ จากโครงการที่เราจะรับรู้ถึง 2 โครงการด้วยกัน โดยปัจจุบัน มียอดขายทะลุเกิน 400 กว่าล้านบาทขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว โดยที่ผ่านมาเราได้ส่งมอบไปในช่วงเดือน มิถุนายน เป็นจำนวนมาก” นายธนากรกล่าว
ผุดโครงการใหม่เพียบ
อย่างไรก็ดีแผนของปีนี้ บริษัทจะมีโครงการคอนโดฯแล้วเสร็จ 5 โครงการ มูลค่ารวม 8.6 พันล้านบาท และเตรียมเปิดโครงการใหม่อีก 6 โครงการ มูลค่ารวม 1.82 หมื่นล้านบาท ซึ่งตั้งเป้ายอดขาย (Presale) ที่ระดับ 70-80% ของมูลค่าโครงการ ล่าสุดช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย.) มียอดขายรวมแล้ว 2 พันล้านบาท เป็นยอดขายจากโครงการเดิม และมีการเปิดขายโครงการ อิมเพรสชั่น เอกมัย อย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งบริษัทมั่นใจทั้งปียอดขายจะเติบโตตามเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้
นายธนากรกล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าผลักดันให้ผลประกอบการโดยรวมเติบโตเพิ่มขึ้นได้ทุกปี โดยใน 3 ปีข้างหน้า หรือปี 2564 จะเติบโต 100%ต่อปี เพราะบริษัทจะทยอยรับรู้ Backlog ที่มี 7.2 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ถึง 60-70% และยังมีสินค้า เหลือขาย (Inventory) ในมือรวมกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าพร้อมโอนภายในปีนี้ ประมาณ 40% ซึ่งจะสามารถรับรู้เป็นรายได้ทันทีหลังการขาย
โบรกเจาะขอบพื้นฐาน
ด้านนักวิเคราะห์ประเมินว่า ALL อนาคตจะเหมือน ORI ในสมัยเข้าตลาดใหม่ๆ จากยอดขายเริ่มต้นและ backlog หลักพันล้านบาท ต่อมาไม่กี่ปีพุ่งเป็นหลายหมื่นล้านบาท ราคาหุ้นที่เริ่มจากไม่กี่บาทจนขึ้นไปหลายเท่าตัว
ALL คืออีกหนึ่งหุ้นที่จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดใน 2-3 ปี โดยประเมินว่า ปี 2562 นี้จะทำรายได้ 6,500 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีรายได้จำนวน 2,300 ล้านบาท
อีกทั้ง backlog ที่ 7 พันล้านบาท และรอขายอีก 8 พันล้านบาท และเตรียมเปิดตัวอีก 1.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเมื่อประเมินกำไรจะสูงถึง 600 ล้านบาท เป็นอย่างน้อย โตเท่าตัวจากปีก่อน ซี่งจะผลักดันให้ราคาเป้าหมายมีโอกาสวิ่งถึง 6.50 บาท ยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยกำไรที่โตแรงนี้ทำให้ Fwd-PE เหลือแค่ 4 เท่า และจะปันผลไม่ต่ำกว่า 0.42 บาท ให้ yield ระดับ 10% ถ้าประเมินแบบ conservative ให้ค่า PE ที่ 6 เท่า